ใต้ตาเหี่ยว คล้ำ มีริ้วรอย ผิวดูโทรมแม้พักผ่อนเต็มที่?

“ปัญหาใต้ตา” เป็นจุดบอบบางที่เผยอายุ และความเหนื่อยล้าได้ชัดเจนที่สุด ทั้งริ้วรอยใต้ตา ความหมองคล้ำ หรือผิวบางที่เห็นเส้นเลือด ทำให้หลายคนเสียความมั่นใจ แม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหนก็ตาม

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธี ฟื้นฟูผิวใต้ตา โดยไม่เน้นการเติมเต็มแบบฟิลเลอร์ REJURAN i (รีจูรัน ไอ) คืออีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังมาแรง ด้วยนวัตกรรมการ ฉีดใต้ตา ที่ช่วยซ่อมแซมผิวลึกถึงระดับเซลล์ คืนความเรียบเนียน สดใส และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ
• REJURAN i คืออะไร
• เหมาะกับใคร
• ต่างจากฟิลเลอร์ใต้ตายังไง
• และเหตุผลที่ควรเลือก ฉีดใต้ตา REJURAN i ที่ LBC CLINIC

อ่านจบ ครบทุกคำตอบของการดูแลผิวใต้ตาที่ไม่ควรพลาด!

REJURAN i คืออะไร?

REJURAN i (รีจูรัน ไอ) คือทรีตเมนต์ฉีดใต้ตาจากเกาหลีใต้ ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผิวรอบดวงตา ด้วย PN (Polynucleotide) สารสกัดจาก DNA ปลาแซลมอน ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ซ่อมแซมผิวที่อ่อนแอ ลดความหมองคล้ำ ริ้วรอย และถุงใต้ตา

แตกต่างจาก Rejuran Healer ตรงที่ Rejuran i มีโมเลกุลเล็กและบางเบากว่า จึงซึมซาบได้ลึก เหมาะกับผิวบอบบางรอบดวงตาโดยเฉพาะ เห็นผลเรื่องผิวอิ่มฟู ใต้ตาสดใส และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

ใต้ตาคล้ำเกิดจากอะไร?

ใต้ตาดำคล้ำเกิดจากการไหลเวียนเลือดไม่ดี ผิวใต้ตาบาง จึงมองเห็นเส้นเลือดชัด สาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ ได้แก่

• พักผ่อนไม่พอ
• ฮอร์โมนเปลี่ยน
• โดนแดดสะสมเมลานิน
• ภูมิแพ้หรือแพ้สาร
• โรคบางอย่าง เช่น ไทรอยด์
• กรรมพันธุ์ในครอบครัว

ปัญหาใต้ตาคล้ำ ไม่ได้เกี่ยวกับอายุเสมอไป แต่สามารถเกิดได้กับทุกคน หากมีปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วยค่ะ

จุดเด่นของ REJURAN i  

 • พัฒนาสูตรมาเพื่อ ผิวใต้ตาบอบบาง โดยเฉพาะ
• ช่วย ลดรอยคล้ำใต้ตา ที่การฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปไม่สามารถแก้ไขได้
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือน ริ้วรอยเล็ก ๆ และรอยย่นใต้ตา
• เพิ่ม ความชุ่มชื้น และ ความยืดหยุ่นผิวรอบดวงตา
• เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ

ไม่ว่าจะมีปัญหาใต้ตาคล้ำเพราะพักผ่อนน้อย ริ้วรอยจากอายุ หรือผิวที่บอบบางจากพันธุกรรม REJURAN i  คือทางเลือกใหม่ที่ฟื้นฟูจากภายใน

เปรียบเทียบ REJURAN i กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา และ Juvelook

จะเลือกอะไรดี? ระหว่างฉีดใต้ตาด้วย REJURAN i, Juvelook หรือฟิลเลอร์ใต้ตา การฉีดใต้ตาเพื่อ ลดรอยคล้ำใต้ตา หรือฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้ดูสดใสขึ้น ไม่ได้มีแค่ “ฟิลเลอร์ใต้ตา” เท่านั้น

แต่ยังมีนวัตกรรมใหม่อย่าง REJURAN i และ Juvelook ที่ช่วย ฟื้นฟูใต้ตา ได้ลึกถึงระดับเซลล์
แต่ละตัวมีข้อดีที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องส่วนผสม จุดประสงค์ในการรักษา ไปจนถึง “ชั้นผิวที่ฉีด” ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์โดยตรง

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เราจึงสรุปตารางเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าแต่ละตัวเหมาะกับใคร และสามารถทำร่วมกันได้หรือไม่ ก่อนตัดสินใจเลือกวิธี แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ, ริ้วรอย, หรือ ใต้ตาโบ๋ ได้อย่างตรงจุด

เลือกฉีดตัวไหนดี?

จริง ๆ แล้ว การทำหัตถการใต้ตา สามารถทำร่วมกันได้ในบางกรณี ขึ้นอยู่กับ สภาพผิวของแต่ละคน และ ชั้นผิวที่ต้องการแก้ไข โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่า เทคนิคใดเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด สำหรับปัญหาใต้ตาในแต่ละราย

REJURAN i กับ Juvelook

ทั้งสองตัวนี้เป็นกลุ่ม Skin Booster ที่ใช้กระตุ้นการฟื้นฟูใต้ตา เสริมความแข็งแรงของผิว ลดความคล้ำ ลดริ้วรอยบาง ๆ และกระชับรูขุมขน ซึ่งทั้งคู่จะฉีดใน ชั้นตื้น ใกล้เคียงกัน และมีคุณสมบัติคล้ายกันมากค่ะ

เพราะฉะนั้น แพทย์จะเลือกใช้แค่ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้นในแต่ละรอบการรักษา เพื่อไม่ให้เนื้อยาตีกันในชั้นผิวเดียวกัน และเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนจากตัวยานั้น

ฟิลเลอร์ใต้ตา

จะเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่แพทย์จะ วางลึกกว่าชั้นของ Skin Booster โดยเฉพาะเพื่อเติมร่องใต้ตา ร่องน้ำตา หรือปัญหาถุงใต้ตา ซึ่งทำหน้าที่ “เสริมโครงสร้าง” มากกว่าการบำรุงผิวค่ะ

สรุปว่า REJURAN i ทำคู่กับอะไรได้บ้าง?

ถ้าอยากแก้ปัญหาใต้ตาครบทุกมิติ ในครั้งเดียว เช่น ลดรอยคล้ำ ฟื้นฟูผิว และเติมเต็มใต้ตา สามารถฉีด ได้ 2 ตัวร่วมกัน จาก 3 ตัวนี้ ได้แก่
• ฟิลเลอร์ใต้ตา
• REJURAN i
• Juvelook

โดยสามารถจับคู่ได้ เช่น
• ฟิลเลอร์ใต้ตา + REJURAN i
• ฟิลเลอร์ใต้ตา + Juvelook

แต่ไม่แนะนำให้ฉีดครบทั้ง 3 ตัวในครั้งเดียว
เนื่องจาก REJURAN i กับ Juvelook มีคุณสมบัติฟื้นฟูใต้ตาในชั้นผิวที่ใกล้เคียงกัน
หากฉีดพร้อมกันอาจเกิดการทำงานซ้ำซ้อนหรือระคายเคืองได้
จึงควรเลือกเพียง 1 ตัวในกลุ่มฟื้นฟูร่วมกับฟิลเลอร์ เพื่อให้ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ

REJURAN i เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มี ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิแพ้ หรือกรรมพันธุ์
• ผู้ที่มี ริ้วรอยเล็ก ผิวแห้ง ผิวบางรอบดวงตา ที่เริ่มแสดงสัญญาณของความโทรม
• ผู้ที่ต้องการเพิ่ม ความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นให้กับผิวรอบดวงตา
• ผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้ว แต่ยังมีริ้วรอยบริเวณเปลือกตาบนหรือรอยเล็กอื่น ๆ ที่ฟิลเลอร์เข้าไม่ถึง
• ผู้ที่อยากฟื้นฟูผิวรอบดวงตาด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อย่าง PN จาก DNA ปลาแซลมอน ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระดับเซลล์

REJURAN i ใต้ตา จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากให้ผิวรอบดวงตากลับมาอิ่มฟู กระจ่างใส ดูสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่บวม ไม่ดูตุ่ย

ระยะเวลาเห็นผลหลังฉีด Rejuran i ใต้ตา

• หลังฉีด 1 – 2 สัปดาห์
เริ่มรู้สึกได้ว่าผิวใต้ตาชุ่มชื้นขึ้น ดูสดใสขึ้นเล็กน้อย ความแห้งและความหมองคล้ำลดลง

• ภายใน 1 เดือน
เห็นผลชัดเจนในเรื่อง:

• ผิวใต้ตาเรียบเนียนขึ้น
  
• ริ้วรอยเล็กจางลง
  
• ผิวดูอิ่มฟูและสุขภาพดีขึ้น

• ระยะเวลาการคงผลลัพธ์เฉลี่ยประมาณ 4 – 6 เดือน

• แนะนำฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง ทุก 1 เดือน อยู่ได้นาน 1 ปีเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน

ทำไมต้องฉีด REJURAN i ที่ LBC?

• คลินิกชั้นนำด้านความงาม ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ
  
• แพทย์ประสบการณ์สูง ฉีดแม่นทุกจุด ลดความเสี่ยง บวมน้อย หายไว
  
• ใช้ของแท้ทุกเคส พร้อมให้ตรวจสอบก่อนฉีด
  
• ให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ยัดเยียดขายคอร์ส
  
• ลูกค้ารีวิวจริงแน่นทุกวัน เพราะเห็นผลชัด ปลอดภัย และบริการดีเยี่ยม

การดูแลตัวเองก่อนฉีด REJURAN i

1. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และอาหารเสริมบางชนิด
• ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ
• อาหารเสริมที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ วิตามิน E, Fish Oil, Ginkgo, Garlic, โสม หรือสารที่ช่วยต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน (หากไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์)

2. หลีกเลี่ยงการรับประทานยาแก้อักเสบบางชนิด
• หากมีการใช้ยาอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีด

3. พักผ่อนให้เพียงพอ
• ร่างกายที่พร้อมจะช่วยลดอาการบวม ช้ำ และฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้น

4. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและทาครีมบริเวณใต้ตาในวันทำ
• เพื่อป้องกันการระคายเคืองและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ5. แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียดก่อนทำ
• เช่น ประวัติแพ้ยา เป็นโรคเริม โรคประจำตัว หรือกำลังตั้งครรภ์ / ให้นมบุตร

การดูแลตัวเองหลังฉีด REJURAN i

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้ตาในช่วง 6 – 8 ชั่วโมงแรก
• เพื่อป้องกันไม่ให้บริเวณที่ฉีดเกิดการติดเชื้อ

2. ประคบเย็นเบา ๆ หากมีอาการบวมหรือช้ำ
• ทำได้ภายใน 24 ชั่วโมงแรก วันละ 2 – 3 ครั้ง ครั้งละ 10 – 15 นาที

3. หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน งดซาวน่า อบไอน้ำ
• ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 24 – 48 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว

4. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า บีบ หรือทาครีมบริเวณใต้ตาเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
• หลังจากนั้นสามารถใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยนได้ตามปกติ

5. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และออกกำลังกายหนัก
• ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อป้องกันเลือดออกหรือบวมเพิ่ม

6. นอนหมอนสูงในคืนแรก
• ช่วยลดอาการบวมจากแรงโน้มถ่วง

7. หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ RF HIFU หรือ Thermage บริเวณใต้ตา
• ควรเว้นช่วงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนหรือหลังการฉีด REJURAN i

8. เข้ารับการฉีดซ้ำตามคำแนะนำแพทย์
• เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานและต่อเนื่อง ปกติแนะนำ 3 – 4 ครั้ง

การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องก่อนและหลังฉีด รีจูรันใต้ตา จะช่วยให้ผลลัพธ์จากการ ฉีดใต้ตา REJURAN i ออกมาดีที่สุด และปลอดภัยต่อผิวบริเวณบอบบางใต้ตาค่ะ

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

 • หากมีรอยนูน บวมแดง หรือรู้สึกผิดปกติ ควรรีบติดต่อคลินิกทันที

 • หลีกเลี่ยงการกด หรือนวดเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ • REJURAN i เป็นการฟื้นฟูผิว ไม่ใช่การเติมเต็ม จึงเห็นผลแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าในทันที

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ REJURAN i ฉีดใต้ตา

1. ฉีด REJURAN i เจ็บไหม?
โดยทั่วไปเจ็บน้อยมาก เพราะใช้เข็มขนาดเล็ก และก่อนฉีดจะมีการแปะยาชา ทำให้รู้สึกสบายและแทบไม่รู้สึกเจ็บ

2. ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
แนะนำให้ฉีดอย่างน้อย 3 – 4 ครั้ง ตามคำแนะนำแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน

3. REJURAN i ต่างจากฟิลเลอร์อย่างไร?
REJURAN i ไม่ได้เติมเต็มผิวใต้ตาทันทีเหมือนฟิลเลอร์ แต่ทำหน้าที่ฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง กระชับ และดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว

4. สามารถใช้ REJURAN i ร่วมกับฟิลเลอร์ได้ไหม?
ได้ค่ะ โดยปกติจะแนะนำให้ฉีด REJURAN i ก่อน เพื่อฟื้นฟูผิวใต้ตาให้แข็งแรง จากนั้นจึงเติมฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ต่างกัน ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัยยิ่งขึ้น5. ทำไมต้องเลือกฉีด REJURAN i ที่ LBC CLINIC?
เพราะที่ LBC CLINIC เราใช้ผลิตภัณฑ์ REJURAN i ของแท้ นำเข้าจากบริษัทโดยตรง พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีเทคนิคพิเศษเฉพาะทางในการดูแลผิวบริเวณใต้ตา เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ

REJURAN i ตัวท็อปวงการใต้ตา มา LBC แล้วค่ะ!

โปรเปิดตัว 1 กล่อง ราคา 12,900 บาท

รีวิวผลลัพธ์หลังฉีด REJURAN i ที่ LBC CLINIC