หน้าใสมีเพียบ LBC เทียบให้ !! | LBC Clinic
ปิดหน้าต่างนี้
เบอร์ติดต่อ
เบอร์ติดต่อ
092-391-8811 095-996-1666
Instagram
Instagram
lbcclinic
 เวลา เปิด-ปิด
เวลา เปิด-ปิด
ทุกวัน 11.00 - 20.00 น.
LBC Clinic Line
หน้าใสมีเพียบ LBC เทียบให้ !!
หน้าใสมีเพียบ LBC เทียบให้ !!
- โพสเมื่อ 20/05/2024

       

       ช่วงนี้ใครหลายๆ คน มีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาผิวหน้า อยากรู้ How to วิธีดูแลผิวหน้าให้ใสฉ่ำ สุขภาพดีเหมือน Net idol พี่สาวเกาหลี แต่ในปัจจุบันหัตถการหน้าใสมีเยอะหลากหลาย และหลายๆตัวก็นิยมมาตั้งแต่ปี 2023 และยังคงฮิตติดเทรนด์มาถึงปี 2024 ทำให้หลายๆคนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะทำตัวไหนดี 


       แต่ไม่ยากค่ะเพราะ LBC สรุปมาให้แล้ว ตัวไหนปัง ตัวไหนดี เหมาะกับผิวแบบไหน อ่านบทความนี้กันได้เลย บอกเลยว่าสามารถตอบโจทย์กับทุกปัญหาผิวได้อย่างแน่นอน


       ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าตัวเรานั้นมีปัญหาผิวหน้าแบบไหน จะได้ฉีดแก้กันได้ถูกค่ะ



ผิวแห้ง คือ ผิวขาดน้ำ หยาบกร้าน แห้งแตกลอกเป็นขุย 

ผิวแพ้ง่าย คือ ผิวที่ระคายเคืองได้ง่าย และไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าผิวปกติ เกิดการอักเสบ หรือมีสิวผด ผื่น

ผิวหมองคล้ำ คือ ผิวเสียสะสมจากแดด ทำให้หน้าดูโทรม หมอง

ผิวมีฝ้า กระ คือ ความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไป หรือ การสัมผัสแดดเป็นเวลานาน

ผิวไม่เรียบเนียน คือ ผิวที่มองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน หรือมีรอยดำ แดง จากสิว หรือมีหลุมสิว

ผิวไม่กระชับ คือ ผิวที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย ดูไม่เฟิร์ม ขาดความยืดหยุ่น


เมื่อรู้ลักษณะปัญหาผิวแล้ว มาต่อกันที่หัตถการหน้าใสแต่ละตัวกันเลย วันนี้ LBC CLINIC รวบมาให้ถึง 9 ตัว!



1.Juvederm Volite

       เป็นสารเติมเต็มหรือ HA มีส่วนประกอบพิเศษที่ไม่มีในสารเติมเต็มยี่ห้อไหน นั่นก็คือ APQUAPORIN-3 หรือ AQP3 ที่ทำหน้าที่ควบคู่ไปกับ Hyaluronic Acid  ที่สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนัก HA ทำหน้าที่เติมน้ำให้กับชั้นผิว ด้วยวิธีการดึงโมเลกุลน้ำ ให้เกาะกลุ่มกัน และทำหน้าที่รักษากักเก็บความชุ่มชื้นของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหมาะกับ : ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น

ช่วย : กระชับผิวแน่น เด้ง เมคอัพติดทน

อยู่ได้นาน : 9 เดือน

แนะนำ : ฉีดต่อเนื่อง 3 - 4 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานมากขึ้น






2.BELOTERO REVIVE

       ฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลก ที่ผ่าน อย.ยุโรป อเมริกา และไทย มีนวัตกรรมการผลิตซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ Belotero คือ CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสภาพผิว และมีจุดเด่นที่ส่วนผสมหลักอย่าง Hyaluronic Acid และ Glycerol ที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นแบบ x1000

เหมาะกับ : ผิวขาดน้ำ, รูขุมขนกว้าง

ช่วย : งานผิวหน้า 4 มิติ อิ่มฟู เนียน เด้ง ชุ่มชื้น

อยู่ได้นาน : 9 เดือน

แนะนำ : ฉีดต่อเนื่อง 3 - 4 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ปังและยาวนานมากขึ้น






3.EXOSOME

       ประกอบด้วย miRNA, Growth factor, Cytokine และโปรตีนต่างๆมากมาย ซึ่งก็คือชุดคำสั่งผลิตออกมา สั่งการให้เซลล์ต่างๆทำหน้าที่ในการแบ่งตัวดูแลพร้อมปรับสมดุลผลิตคอลลาเจน ต้านการอักเสบ ฮีลลิ่งบาดแผล ช่วยให้ผิวแข็งแรง

เหมาะกับ : มีจุดด่างดำ กระ ฝ้า

ช่วย : เรื่องเม็ดสี ปรับสีผิว, สร้างเซลล์ผิวใหม่, ผิวแข็งแรง ลดรอยแดงดำ

อยู่ได้นาน : 2 - 3 เดือน หากทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง สามารถอยู่ได้นาน 1 ปี

แนะนำ : ทำอย่างต่อเนื่อง 5 ครั้ง โดยแบ่งเป็น 3 ครั้ง / 2 สัปดาห์ และ 2 ครั้ง / 1 เดือน 






4.Juvelook

       ผลิตภัณฑ์ Hybrid biostimulator หรือ คอลลาเจนบูสเตอร์ ที่ได้รับการผสมผสานกันระหว่าง 2 อานุภาค ประกอบไปด้วย PDLLA ร่วมกับ Noncrosslinked HA ผสมผสานกันอย่างลงตัวเพื่อให้เข้าไปสู่ใต้ชั้นผิว ด้วยขนาดอนุภาคตั้งแต่ 10 ถึง 40 ไมโครเมตร ช่วยสร้างคอลลาเจนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผลลัพธ์ทั้ง Skin Rejuvenation และ Volume augmentation

เหมาะกับ : ผิวหย่อนคล้อย, หลุมสิวตื้น

ช่วย : ผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ, ลดเลือนรอยแผลเป็น ลดหลุมสิว, เติมเต็มร่องน้ำตา และริ้วรอยรอบดวงตา

อยู่ได้นาน : 2 ปี

แนะนำ : ฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน และเพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่องควร re-tratment ทุกๆ 6 - 12 เดือน






5.REJURAN + CHANEL

       เซ็ตคู่งานผิว PN เข้มข้น ช่วยซ่อมแซมผิวจากภายใน (REJURAN) + Pink Yeast สุดฮิตเรื่องฉ่ำเงา เติมความชุ่มชื่น (CHANEL)

เหมาะกับ : ผิวแห้ง, หมองคล้ำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ช่วย : หน้าใสสะท้อนแสง, ผิวดูอิ่มตั้งแต่จิ้มครั้งแรก, ผิวเรียบเนียนจนมือสัมผัสได้ พร้อมลดสิวผด สิวผื่น

อยู่ได้นาน : 2 - 3 เดือน






6.Filorga NCTF 135 HA

       สกินบูสเตอร์ เพิ่มคุณภาพผิว จากฝรั่งเศส มีความเข้มข้นของวิตามิน และตัวยาที่จำเป็นต่อผิวหลายตัว มากถึง 59 ชนิด ช่วยให้ชั้นผิวหนังหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น เสริมสร้างไฟโบบลาส คอลลาเจน และ อิลาสติน ลดเม็ดสี รวมถึงรอยคล้ำรอบดวงตา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เหมาะกับ : ผิวเสียสะสม, ใต้ตาคล้ำ

ช่วย : ลดใต้ตาคล้ำ, ปรับผิวเนียนใส, ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

อยู่ได้นาน :  2 - 3 เดือน

แนะนำ : สำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ดูไม่สดชื่น หรือต้องการบูสผิวเฉพาะจุด แนะนำ 1 - 2 ครั้ง

              สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ต้องการเน้นความกระจ่างใส แนะนำ 3 ครั้ง สัปดาห์ละ 1 ครั้งอย่างต่อเนื่อง 






7.GLOW 24x60

       นวัตกรรมใหม่สำหรับการเติมอาหารให้กับผิว ของ LBC ที่อัดตัวบำรุงผิวให้สูงสุดถึง 50 ชนิด โดยมีสารสกัดตัวหลักคือ HA+PN ที่เข้มข้น ดูแลได้ลึกถึงระดับ DNA ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อผิวครบทุกความต้องการ ตั้งแต่การป้องกันยันการฟื้นฟู 

เหมาะกับ : ผิวแห้งกร้าน, หมอง

ช่วย : ผิวใสเปล่งปลั่งตั้งแต่ 24. แรก

อยู่ได้นาน : 2 - 3 เดือน

แนะนำ : ฉีดซ้ำทุก 7 วัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ 






8.SCULPTRA

       ตัวกำเนิดคอลลาเจนในรูปแบบฉีด ประกอบด้วย PLLA (Poly-L-Lactic acid) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทั้งเติม ทั้งแน่น ทั้งยกกระชับใบหน้า

เหมาะกับ : ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

ช่วย : กระตุ้นคอลลาเจน, หน้าเด็กอิ่มฟู, ผิวเนียนละเอียด

อยู่ได้นาน : 2 ปี

แนะนำ : ให้นวดบริเวณที่ฉีด SCULPTRA ทุกวันหลังฉีดประมาณ  5 วัน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที 






9.Radiesse

       สารเติมเต็ม (Filling Substance) ชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนประกอบหลักคือสาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ที่อยู่ในกลุ่มของสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน ให้ผิวแข็งแรง สดใสขึ้น และช่วยเพิ่มวอลลุ่มในส่วนของผิวหนังที่ลดลงได้ในแบบทันที และสามารถลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นต่างๆ ในระยะยาว

เหมาะกับ : ผิวหย่อนคล้อย, ขาดความชุ่มชื้น

ช่วย : ผิวเด้ง แน่นเฟิร์ม, สร้างเส้นใยผิว เคลือบผิวใสฉ่ำ

อยู่ได้นาน : 2 ปี

แนะนำ :  แบ่งเป็น 3 Session  Session ละ 2 กล่อง  *หรือตามคุณหมอแนะนำ






Do / Don’t หลังทำหัตถการหน้าใส

  1. เลี่ยงการทาครีมบริเวณที่ฉีด 1 คืน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
  2. เลี่ยงการสัมผัส การกดบริเวณที่ฉีดในช่วง 1-2 คืนแรก เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบ 
  3. พยายามเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นต้องออกแดดบ่อยๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF30 ขึ้นไป
  4. งดอาหารหมักดอง 7-14 วัน เนื่องจากอาหารเหล่านี้ส่งผลให้เกิดการอักเสบของผิวได้


นอกจากนี้ยังมีวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดที่สามารถคงผลลัพธ์การรักษาที่ยาวนานขึ้น คือ


  • หลังฉีด 2-3 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่ถู หรือขัดหน้าแรง เพื่อลดการระคายเคือง

  • พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัด หรือการเผชิญกับมลภาวะ เพราะจะส่งผลต่อการระคายเคืองของผิว อาจทำให้เกิดรอยแดง โดยเฉพาะบริเวณรอยเข็มบริเวณที่ฉีด

  • ควรเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะเป็นหนึ่งในตัวการทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น 

  • งด หรือลดการสูบบุหรี่ เพราะเป็นต้นเหตุทำให้ผิวหมองคล้ำเร็ว

  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส สุขภาพดี


       หัตถการทั้งหมดนี้เป็นเพียงวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้ผิวเราดูดีขึ้นส่วนหนึ่ง ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือได้ หมอที่เชี่ยวชาญ และดูแลตัวเองควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิธีดูแลผิวหน้าด้วยการบำรุงผิวตัวเองด้วยสกินแคร์ มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ดูแลในเรื่องอาหารการกิน เพื่อผลลัพธ์ดีจากภายในสู่ภายนอก ใครอยากหน้าใสรับทุกเทศกาล ปรึกษา LBC ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ค่ะ




แสดงความคิดเห็น
บทความอื่นๆ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จูบได้ไหม?
ใครมีคำถามเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก LBC รวบตึงมาให้แล้ว
- โพสเมื่อ 12/12/2024
แก้มตอบ ดูแก่กว่าวัย แก้ไขอย่างไรดี?
ฟิลเลอร์แก้มตอบ เคล็ดลับหน้าเด็ก เห็นผลทันทีหลังฉีด
- โพสเมื่อ 06/12/2024
LBC CLINIC ยืนหนึ่งเรื่องปรับรูปหน้ามากกว่า 9 ปี
คลินิกความงามของคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยีทันสมัย และความปลอดภัยที่ได้รับมาตรฐาน
- โพสเมื่อ 29/11/2024
ปัญหาร่องแก้มลึกกวนใจ จัดการอย่างไรดี?
เติมเต็มร่องแก้ม ลดอายุ เพิ่มความสดใส บทความนี้มีคำตอบ
- โพสเมื่อ 20/11/2024