รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
“อยากย้อนวัยกลับไปหน้าเด็ก แบบไม่ต้องผ่าตัดทำได้มั้ยคะ?” คำถามนี้บอกเลยว่าแอดมินเจอมาเยอะมากๆ วันนี้จะมาตอบคำถามด้วยบทความนี้กันค่ะ
จริงๆแล้วการย้อนวัยกลับไปหน้าเด็ก ดูสดใส สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดเลยค่ะ สามารถทำได้โดยการเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณที่มีปัญหาทำให้หน้าดูล้ำอายุ แก่กว่าวัย
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ช่วยเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนัง และใต้ผิวหนัง ช่วยลด และแก้ไขปัญหาร่องลึก ผิว ริ้วรอยบริเวณต่างๆ ของใบหน้า ให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ อิ่มฟู เปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง ฉีดแล้วไม่เป็นอันตราย สามารถสลายได้เองโดยไม่ตกค้างอยู่ในชั้นผิว หรือร่างกาย
ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก บริเวณต่างๆ ของใบหน้า เช่น ใต้ตา, ร่องแก้ม หรือ ร่องน้ำหมาก
ผู้ที่ต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมคาง, ริมฝีปาก, กรอบหน้า, ขมับ หรือ เติมแก้มตอบ
ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง
ขมับ > ช่วยเติมเต็มใบหน้าให้สวย อ่อนเยาว์ ดูมีมิติ
ใต้ตา > ลดปัญหารอยดำ ร่องลึก ถุงใต้ตาเรียบตึงขึ้น
หน้าแก้ม หรือ แก้มส้ม > คืนความอ่อนเยาว์ ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง อิ่มเอิบขึ้นทันที
ขมับ + แก้ม > ลดปัญหาแก้มตอบ โหนกแก้มสูง ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน
กรอบหน้า > กรอบหน้าคมชัด เหนียง, คาง 2 ชั้นลดลง
ริมฝีปาก > เติมเต็มร่องปากให้ดูอวบอิ่ม ยกมุมปากให้เป็นทรงสวย
คาง > ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
การเติมฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เท่ากัน และแตกต่างกันออกไปตามระดับปัญหาที่มีในแต่ละบุคคล โดยปริมาณฟิลเลอร์เบื้องต้นในแต่ละตำแหน่งเป็นดังนี้
ก่อนการเติมฟิลเลอร์จะมีการใช้ยาชาทั้งแบบทา และแบบฉีด และในฟิลเลอร์บางรุ่น บางยี่ห้อ ยังมียาชาในตัวอีกด้วย ขณะฉีดจะช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บค่ะ
หลังจากฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ แต่โดยปกติอาจจะมีอาการบวมจากยาชา และอาการบวมจากฟิลเลอร์ได้ แต่จะค่อยๆหายไปได้เองประมาณ 7-14 วัน
จากนั้นจะเห็นผลเข้าที่ 100% ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์หลังจากอาการบวมหาย และฟิลเลอร์กลืนเข้าไปกับผิวโดยระหว่างนี้การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญต่อผลลัพธ์ที่จะได้ค่ะ
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
หลังการฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการนวด กด เกา รวมถึงสัมผัสแรง ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัส และเพื่อให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปคงรูปทรง เข้าที่ได้ดียิ่งขึ้น
2. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และ ความร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
ไม่ควรออกกำลังให้เหงื่อออก หรือไปตากแดดร้อน รวมถึงการเข้าห้องซาวน่า เพราะความร้อนส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ และ อาจเกิดรอยแดงบริเวณที่ฉีดได้ กรณีพบอาการระคายเคือง บวม แดง คันอย่างต่อเนื่อง สามารถติดต่อแอดมินเพื่อแจ้งติดตามอาการได้ทันที
3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ที่มีส่วนประกอบของกรดผลไม้ ส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง กับผิวบริเวณที่ฉีดได้ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
4. งดทานวิตามิน และยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
เช่น วิตามินอี แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และ ยาแก้อักเสบบางชนิด เพราะอาจทำให้เลือด หยุดไหลช้า ทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ รวมถึงอาหารหมักดองของแสลงอย่างน้อย 1 สัปดาห์
5. หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ ถอน ย้อมสีขน หรือใช้ครีมกำจัดขน
ประมาณ 2 - 3 วัน เนื่องจากบริเวณที่ฉีดอาจมีความบอบบางลงชั่วคราว อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เสี่ยงต่อการอักเสบได้
6. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ สูบบุหรี่
ควรงดแอลกอฮอล์ และ สูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
7. ดื่มน้ำให้มากๆ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 4 - 5 วันแรก
อย่างน้อยวันละ 8 - 10 แก้ว เพื่อผลลัพธ์ที่ดี เนื่องจากฟิลเลอร์จะดูดซับน้ำขึ้นทรงได้อย่างสวยงาม และทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น เพราะฟิลเลอร์ คือ สารไฮยาลูลอนิคซึ่งอุ้มน้ำได้ดี
การเติมฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่มีความรู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม และสามารถวิเคราะห์ปริมาณการใช้ยา รวมถึงตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ และควรจะต้องฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน ได้รับการอนุญาตแล้วเท่านั้น เพราะหากฉีดโดนเส้นเลือดหรือบริเวณอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ อาจเป็นอันตรายได้
LBC Clinic เป็นคลินิกที่ได้รับการอนุญาต และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า โดยมีประสบการณ์มามากกว่า 100,000 เคส+ หากใครที่มีปัญหารูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นร่องลึกตามวัย หรือจากปัญหาโครงสร้าง เช่น กระดูกบริเวณใต้ตาทรุด สามารถปรึกษาแพทย์ที่ LBC ก่อนทำได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|