รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
สาว ๆ หลายคนคงอยากมีริมฝีปากอิ่มสวยน่าจุ๊บกันใช่ไหมคะ? การฉีดฟิลเลอร์ปากก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้ แต่หลังจากฉีดเสร็จใหม่ ๆ หลายคนก็สงสัยว่า "หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จูบได้ไหม?" วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ชัดเจนกันค่ะว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว มีอะไรที่เราควรระวังบ้าง ติดตามบทความนี้กันได้เลยค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ปากคือ การใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid: HA) ฉีดเข้าไปในบริเวณริมฝีปาก ปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น มีมิติมากขึ้น และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับริมฝีปาก เช่น ปัญหาปากบาง, ปากแห้งลอก, ร่องปากลึก ทาลิปตกร่อง, ปากไม่เป็นทรง ให้เป็นรูปสวยงาม
ผู้ที่มีริมฝีปากบาง : การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น
ผู้ที่มีริมฝีปากไม่เท่ากัน : การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยปรับสมดุลให้ริมฝีปากทั้งบน และล่างดูเท่ากัน
ผู้ที่มีร่องปากลึก : การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะช่วยเติมเต็มร่องปากให้ดูตื้นขึ้น
ผู้ที่มีมุมปากตก : การฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยยกมุมปากให้ดูสดใส ส่งผลให้ใบหน้าดูเป็นมิตรมากขึ้น
ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงริมฝีปาก : ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ปากดูเป็นกระจับ หรือปรับให้เข้ากับรูปหน้า
ผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง ขาดความชุ่มชื้น : ฉีดฟิลเลอร์ปาก จะช่วยให้ปากชุ่มชื้น เต่งตึง ดูอิ่มน้ำมากขึ้น
ทรงปากยอดฮิตในปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ความงามที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปทรง และเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขริมฝีปากที่มีปัญหาไม่เท่ากัน ริมฝีปากตกร่อง หรือต้องการปรับรูปทรงปากให้ดูอ่อนหวาน และมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ใครที่กำลังมองหาทรงปากที่เหมาะกับตัวเอง จะพาไปทำความรู้จักกับทรงปากยอดฮิตที่โดนยื่นเรฟบ่อยที่สุด และกำลังได้รับความนิยมมีดังนี้
ทรงปากธรรมชาติ ลักษณะริมฝีปากมีสัดส่วนที่พอดี ปากบนจะบางกว่าปากล่าง ดูสมดุลกับโครงหน้า เหมาะกับคนที่มีริมฝีปากบาง เนื้อน้อย ต้องการเพิ่มให้ปากดูอวบอิ่มมากขึ้น ทรงนี้จะเน้นให้ลุคเป็นธรรมชาติ
รูปทรงปากอวบอิ่ม จะเน้นให้เห็นขอบริมฝีปากชัดเจน ปริมาณเนื้อปากอวบอิ่มทั้งบน และล่าง มีสัดส่วนที่สมดุลกัน การฉีดทรงปากนี้จะช่วยให้ริมฝีปากดูเซ็กซี่น่าจุ๊บขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างมิติให้ปาก ดึงเสน่ห์ที่โดดเด่นให้ใบหน้า
ทรงปากสายฝอ เป็นทรงปากที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยมีลักษณะเด่นคือความอวบอิ่ม เนื้อปากแน่น มีวอลลุ่มไม่ตกร่องทั้งปากบน และปากล่าง ดูมีมิติ ขอบปากชัดเจน ดูคม ทำให้ปากดูเด่น ปากเจ่อ ปากบนเชิ่ดขึ้น ทรงปากสายฝอจะเน้นทำให้ได้ลุคที่เซ็กซี่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทรงปากหนา ดูอวบอิ่ม หรือคนที่มีเนื้อปากเยอะ มีเครื่องหน้าชัด
รูปทรงปากกระจับ ริมฝีปากด้านบนให้เป็นทรงหยักสวยคล้ายตัว M ฉีดตรงกลางรอยหยักให้มีติ่งนูนลงมาเล็กน้อย และในส่วนของริมฝีปากล่างก็จะฉีดฟิลเลอร์ให้มีทรงหนากว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย ทรงปากกระจับเหมาะกับคนที่อยากให้ปากมีกระจับชัด ๆ ทรงปากมีความโค้งมน ช่วยให้รูปหน้าสวยหวาน ละมุนขึ้น
ลักษณะของริมฝีปากคือมีติ่งตรงกลางที่ริมฝีปากด้านบน ทรงนี้จะเน้นเพิ่มความอวบอิ่มที่ริมฝีปากล่าง ให้คล้ายกับผลเชอร์รี่เล็ก ๆ 2 ลูกประกบกัน ช่วยปรับลุค ให้ดูน่ารัก แต่การฉีดแบบนี้ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปทรงให้เหมาะสมกับใบหน้า และไม่ให้ดูเป็นก้อน ทรงนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อปากน้อย
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จูบได้ไหม?
A : หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้ว ควรหลีกเลี่ยงในการจูบเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ดี และไม่ทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว ผิดรูป หรือเกิดความเสี่ยงต่อการบวม และฟกช้ำ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแรง ๆ หรือการบีบบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วงแรก เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ทาลิปได้ไหม?
A : หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถทาลิปสติกได้ แต่ควรรอให้ครบ 24 ชั่วโมงหลังการฉีด เนื่องจากในช่วงแรกอาจมีอาการบวม และอักเสบจากการฉีด ซึ่งการทาลิปสติกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกที่ล้างออกยาก เพราะการเช็ดหรือทำความสะอาดด้วยการถูแรง ๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่เคลื่อนตัวได้
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน?
A : หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีอาการบวมได้ประมาณ 3 - 7 วัน เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณปากค่อนข้างบาง อาจมีอาการบวมจากเข็มฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายได้เอง และริมฝีปากจะเริ่มเข้าที่ ดูอวบอิ่มเป็นทรงสวย ใน 1 - 2 สัปดาห์ เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่กลืนไปกับผิว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเอง หากอาการบวมเกิน 2 สัปดาห์ หรือมีอาการผิดปกติ เช่น บวมมากผิดปกติ หรือปวดมาก ควรติดต่อแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานไหม?
A : การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถอยู่ได้นาน 8 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล หากต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้กี่ cc ?
A : ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดปากนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
ทรงปากที่ต้องการ: หากต้องการทรงปากสายฝอที่อวบอิ่มมาก อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าการเติมปากให้ดูอิ่มฟูเล็กน้อย
สภาพริมฝีปากเดิม: ผู้ที่มีริมฝีปากบางอยู่แล้ว อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าผู้ที่มีริมฝีปากหนาอยู่แล้ว
ยี่ห้อของฟิลเลอร์: แต่ละยี่ห้อจะมีความเข้มข้นและความสามารถในการคงรูปแตกต่างกันไป
เทคนิคการฉีด: แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านจะมีเทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน
โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดปากจะอยู่ที่ประมาณ 1 - 2 cc แต่ก็อาจจะมากกว่า หรือน้อยกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น
สิ่งสำคัญคือ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะทำการประเมินสภาพริมฝีปาก และแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุด
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี?
A : ฟิลเลอร์ Restylane KYSSE คือ ฟิลเลอร์พรีเมียมในตระกูล Restylane ผลิตโดย Galderma ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากประเทศสวีเดน มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ โดยเป็นรุ่นที่มีความโดดเด่นด้านการฉีดฟิลเลอร์ปาก ออกแบบมาเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น KYSSE มีเนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ออกแบบมาเพื่อ ฉีดปาก โดยเฉพาะ สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน ให้ความชุ่มชื้น อวบอิ่ม พร้อมทั้งปรับสีริมฝีปากให้ดูอมชมพูขึ้น อยู่ได้นานถึง 12 - 18 เดือน
Q : ราคาเท่าไหร่?
A : ราคาบริการฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane รุ่น KYSSE โดยปกติจะเริ่มต้นอยู่ที่ปริมาณ 1 cc ราคา 11,900 บาท โดยการฉีดฟิลเลอร์ปากกับ LBC Clinic คุณหมอจะเลือกใช้ฟิลเลอร์เติมปากที่นำเข้าจากประเทศสวีเดน โดยบริษัท Galderma โดยสามารถเช็กล็อตสินค้า หรือโทรสอบถามทางบริษัทเพื่อความมั่นใจได้ที่เบอร์ 02-023-1800 ต่อ 402
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี?
A : สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? ปัจจุบันมีตัวเลือกคลินิกความงามหลายแห่ง แต่ใช่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนกับใครก็ได้ อยากปรับรูปปากให้ทรงสวยตามเรฟที่ชอบ แนะนำให้พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบดังนี้
1.แนะนำให้เลือก ฉีดฟิลเลอร์ปาก กับคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง แนะนำที่ LBC CLINIC เพราะแพทย์ทุกท่านได้รับใบประกอบวิชาชีพ รายชื่อตรวจสอบในแพทย์สภาได้ อีกทั้งยังได้รับใบฝึกอบรม Certificate Training
2.เลือกคลินิกที่ให้บริการดี แจ้งข้อมูลชัดเจน ตรงไปตรงมา และดูแลเอาใจใส่ ในกรณีที่ไปขอรับคำปรึกษา ทางคลินิกสามารถแนะนำเกี่ยวกับการดูแลเตรียมตัว ก่อน - หลัง การ ฉีดปาก ได้อย่างละเอียด ทั้งจากเจ้าหน้าที่และแพทย์ที่ให้การรักษา
3.เช็กรีวิวลูกค้าจริงหลาย ๆ เคส เป็นหลักฐานยืนยันความน่าเชื่อถือของคลินิกได้เป็นอย่างดี LBC CLINIC มีรีวิวจากลูกค้าจริงกว่า 100,000 + เคส ให้ได้ชมผลลัพธ์ก่อน-หลังมากมาย ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่าย และมั่นใจว่าจะสวยขึ้นแบบธรรมชาติตามเรฟที่ต้องการแน่นอน
4.มีช่องทางการติดต่อหากเกิดข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ เช่น Line@, Facebook และเบอร์โทรติดต่อ
ก่อนฉีดฟิลเลอร์หลายคนต่างมีเรฟในใจไปยื่นให้คุณหมอ แต่สิ่งที่ไม่ควรพลาดถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดี และตรงตามต้องการ ควรมีการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย โดยข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้
1.ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินริมฝีปาก และวางแผนการรักษาให้ตรงตามความต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และสวยงาม
2.ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ให้แน่ใจทุกครั้งว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย เพื่อความปลอดภัย
3.หลีกเลี่ยงการทานยาแก้ปวด แอสไพริน งดทานวิตามิน อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม และใบแปะก๊วย ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพราะวิตามินเหล่านี้จะทำให้เลือดหยุดไหลยาก หรือเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดได้
4.ควรแจ้งคุณหมอหากเคยผ่าตัดริมฝีปากบางมาก่อน เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจหลังทำ ที่ LBC Clinic เรามีคุณหมอดูแลดีไซน์รูปปากแบบเคสต่อเคส การที่คุณหมอทราบประวัติการผ่าตัดมาก่อน จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์ปากของคุณออกมาได้สวยตามความต้องการมากที่สุด
5.หลีกเลี่ยงการทานแอลกอฮอล์ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
6.หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนที่จะทำหัตถการ
1.หลีกเลี่ยงการลอกริมฝีปาก แคะ แกะ เกา หรือกระทบกระเทือนริมฝีปากหลังทำ ประมาณ 2 สัปดาห์
2.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มร้อน ๆ ควรหลีกเลี่ยงประมาณ 3 - 7 วัน
3.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความร้อนเช่น การทำกิจกรรมกลางแจ้ง การอบซาวน่า เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอุณหภูมิสูงอาจทำให้เกิดการบวม เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยแดง และฟิลเลอร์เคลื่อนที่
4.หลีกเลี่ยงการจูบอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เนื่องจากป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดการเสียรูปทรงได้
5.ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะทำให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูเต็มที่ ริมฝีปากชุ่มชื้น
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปทรง และเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ถ้ามีทรงปากสวยและเข้ากับตนเองก็จะช่วยสร้างเสน่ห์ ปรับลุคให้ดูดีขึ้น สำหรับใครที่ต้องการปรับทรงปากให้สวยขึ้นสามารถ ฉีดปาก เพื่อช่วยให้ใบหน้าของคุณดูมีเสน่ห์ ริมฝีปากอวบอิ่ม ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้นการรักษาผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ใครที่กำลังมองหาคลินิกที่เชี่ยวชาญในการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ขอแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่ LBC CLINIC ซึ่งเป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ดูแลโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์สูง พร้อมทั้งให้คำแนะนำ และประเมินทรงปากก่อนทำทุกเคส ระหว่างการฉีด คุณหมอจะคอยปรับและเช็กทรงปากจนกว่าคุณจะมั่นใจว่าได้ทรงที่ใช่มากที่สุด สามารถเข้ามาปรึกษาและรับการประเมินรูปหน้าได้ทุกวัน หรือหากสะดวกที่จะประเมินผ่านออนไลน์ ก็สามารถทักไลน์หรือ Inbox ส่งรูปภาพมาให้คุณหมอช่วยประเมินรูปหน้าเบื้องต้นได้เช่นกัน