SCULPTRA มากกว่าหน้าใสตัวแม่คือเติมเนื้อแท้ให้ผิว | LBC-Clinic.com
ปิดหน้าต่างนี้
LBC Clinic Line
SCULPTRA มากกว่าหน้าใสตัวแม่คือเติมเนื้อแท้ให้ผิว
SCULPTRA มากกว่าหน้าใสตัวแม่คือเติมเนื้อแท้ให้ผิว
- โพสเมื่อ 26/10/2023


       อายุที่มากขึ้นสิ่งที่เยอะตามมาด้วยคือปัญหาผิว คอลลาเจนที่ถดถอยนำมาซึ่งหลายปัญหา ทั้งในเรื่องริ้วรอย ผิวหย่อน เหี่ยวไม่กระชับ รวมถึงร่องลึก ได้เวลาปลุกผิวให้เฟิร์ม เติมความปังไม่ให้พังตามกาลเวลาด้วย SCULPTRA แล้วค่ะ The First & Original Collagen Biostimulator ที่จะมากู้ความเฟิร์ม เด้ง อิ่มฟู ให้กับผิว และจึ้งกว่าด้วยผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 2 ปี วันนี้ LBC CLINIC นำมาให้ได้ลองกันแล้วค่ะ


SCULPTRA คือ อะไร ?

       SCULPTRA คือ ตัวกำเนิดคอลลาเจนในรูปแบบฉีด ประกอบด้วย PLLA (Poly-L-Lactic acid) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทั้งเติม ทั้งแน่น ทั้งยกกระชับใบหน้า สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี คงรูปได้ดีกว่าฟิลเลอร์

       โดย PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid เป็น Biostimulator ตัวแรก ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา และถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างใต้ชั้นลึกของผิว เพื่อยกกระชับ และลดริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น


คอลลาเจนคืออะไร ทำไมต้องกระตุ้นคอลลาเจน?

       คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับผิว ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง เรียบเนียน แต่เมื่ออายุ 25+ คอลลาเจนตามธรรมชาติจะลดลง 1.5% ทุกปี และเมื่ออายุ 30+ การสร้างคอลลาเจนจะลดลงเหลือเพียง 20-30% ส่งผลให้ผิวหน้าดูแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอยร่องลึก และความหย่อนคล้อย

    คอลลาเจนจึงมีส่วนสำคัญ ยิ่งผิวมีคอลลาเจนเยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยชะลอริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิวที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย ช่วยยืดอายุผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ดูเฟิร์มขึ้นนั่นเอง   

คอลลาเจน 5 ชนิดที่สามารถพบได้บ่อยในร่างกาย

  • คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I)

          ซึ่งพบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย และสำคัญที่สุด ช่วยในการเสริมความยืดหยุ่น การสมานแผล สามารถพบได้ในผิวหนัง, เส้นผม, กระดูก, เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด

  • คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) 

          เป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดที่ 1 พบมากในกระดูก, กระดูกอ่อน และข้อต่อ มีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน

  • คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III)

          มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว, กล้ามเนื้อ, ผนังหลอดเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 10 %

  • คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Collagen Type IV) 

          เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ, ไขมัน นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท และเส้นเลือดอีกด้วย

  • คอลลาเจนชนิดที่ 5 (Collagen Type V) 

          สามารถพบได้ในบริเวณเดียวกันกับชนิดที่ 1 เป็นคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ และเส้นผม


SCULPTRA เหมาะกับใคร ?

  • ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ 

  • ผิวขาดความยืดหยุ่น ย้วย ไม่เฟิร์ม

  • มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดซึ่งเกิดขึ้นตามวัย 

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน

       เพราะ SCULPTRA เป็นอนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงฟื้นฟูโครงสร้างภายในชั้นลึก ซึ่งถือว่า SCULPTRA ตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเหมาะมากๆ กับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน เพราะจากการวิจัยพบว่า SCULPTRA สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี  

 

SCULPTRA ช่วยอะไรบ้าง?

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวอย่างต่อเนื่อง

  • เติมเต็มคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวแน่นขึ้นอย่างเป็นระเบียบ 

  • ลดเลือนริ้วรอย ผิวเต่งตึงเรียบเนียนขึ้น 

  • คืนความสมดุลให้ผิวอิ่มน้ำ ละเอียด แก้ปัญหาผิวหยาบกร้านได้

SCULPTRA ฉีดบริเวณไหน และควรใช้กี่ CC?

       จุดที่สามารถฉีด SCULPTRA ได้ คือ ขมับ, หน้าแก้มช่วงโหนกแก้ม, แก้มตอบ และกรอบหน้า 

       การคำนวนปริมาณ CC ที่ใช้ จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยเบื้องต้น SCULPTRA 1 ขวด (10 CC) จะเท่ากับช่วงอายุ 10 ปี เช่น อายุ 30 ปี ควรฉีด SCULPTRA 3 ขวด (30 CC) โดยสามารถแบ่งฉีดเป็นเดือนละครั้ง ครั้งละ 1 ขวด 10 CC ทั้งนี้คุณหมอจะเป็นคนประเมินให้ค่ะ


SCULPTRA ทำงานอย่างไร ?

       หลังจากฉีด SCULPTRA เข้าสู่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแล้ว ตัวยาจะเริ่มกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เติมเต็มช่องว่างที่ทำให้เกิดรอยพับริ้วรอย ส่วนสารสำคัญใน SCULPTRA จะค่อยๆถูกดูดซึม และมีการเปลี่ยนแปลงเป็น Lactic acid ไปกระตุ้นการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน โดยผ่านการเรียกเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า มาโครฟาจ มาช่วยในการทำงาน โดยกระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 5 หลังรับการรักษา และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ผลิตคอลลาเจนของตัวเองอีกครั้ง ทำให้คืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

       ผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิต Collagen type1 ได้มากเทียบเท่ากับ SCULPTRA เลยในตอนนี้


หลังฉีด SCULPTRA จะเห็นผลทันทีเลยมั้ยคะ ?

       ตัวยาของ SCULPTRA จะค่อยๆ เข้าไปทำปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึก ซึ่งเมื่อเข้าสู่วันที่ 5 ของการรับการรักษา การผลิตคอลลาเจนจึงเริ่มต้นขึ้น โดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วันก่อนจะสังเกตผลลัพธ์ได้ชัดเจน

หลังฉีด SCULPTRA ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน ? 

       ผลลัพธ์หลังการรักษาจะอยู่ได้นานถึง 25 เดือน หรือ 2 ปี เพราะเป็นการคงอยู่ของคอลลาเจนที่สร้างขึ้นด้วยตนเองตามธรรมชาติ โดยในบางรายอาจอยู่ได้ถึง 3 ปี ขึ้นกับการดูแลแต่ละบุคคล


SCULPTRA ต้องฉีดกี่ครั้งคะ ?

       การฉีด SCULPTRA นั้นจะต้องผ่านการประเมินกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญก่อน เนื่องจากปัญหา และจำนวนการรักษาของแต่ละคนไม่เท่ากัน หากคนไหนที่มีปัญหาเยอะมาก อาจต้องทำประมาณ 2-4 ครั้ง โดยห่างกันทุก 4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีพอใจสูงสุดค่ะ

อาการหลังฉีด SCULPTRA

  • อาการทั่วไปจะมีเพียงอาการบวม แดง ช้ำและมีอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งหายได้เองใน 2-3 วันหลังฉีด 

  • ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ก้อนเล็กๆใต้ผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีด SCULPTRA ทุกวันหลังฉีดประมาณ  5 วัน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที


การนวดด้วยหลักการของ Triple 5

       คือ การทำให้ตัวยาดูดซึมกระจายเข้าสู่พื้นผิวให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลังฉีดจะต้องทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน และต้องทำติดต่อกัน 5 วัน โดยสเต็ปการนวดมี 4 ท่า 


Step ที่ 1 ใช้นิ้วโป้งของเรานวดขมับทั้ง 2 ข้างแล้วใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากหน้าผากไปขมับ 

Step ที่ 2 ยกนิ้วโป้งขึ้น แนบไปตรงหน้าแก้ม ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนจากหน้าแก้มไปข้าง ๆ แก้ม 

Step ที่ 3 ใช้อุ้งมือกดช่วงข้าง ๆ แก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากล่างขึ้นบนไปถึงตรงโหนกแก้ม 

Step ที่ 4 ท่าสุดท้าย ทำมือคล้าย ๆ  กับท่าที่สอง ยกนิ้วโป้งขึ้น เริ่มจากที่คางไล่ไปตามแนวกรามกรอบหน้าด้านข้าง 



ข้อควรระวังในการฉีด SCULPTRA

1. ไม่ควรใช้ SCULPTRA ในผู้ที่แพ้ส่วนผสมใดๆ ของผลิตภัณฑ์ : poly-L-lactic acid” (PLLA), carboxymethylcellulose (USP) , non-pyrogenic mannitol (USP)

2. ผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน

3. ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)

4. ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำ

5. ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร

การดูแลหลังการทำ SCULPTRA

  • สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ หลังฉีด 2-3 ชั่วโมง 

  • ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา ให้ประคบเย็น เพื่อลดอาการปวด บวมช้ำ

  • ใน 24 ชั่วโมงแรก งดออกกำลังกายหนัก งดซาวน่า และงดออกแดดจัด

  • นวดกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ ทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

  • แนะนำรับประทานวิตามินซี วันละ 1,000 มิลลิกรัมทุกวันในช่วง 3 เดือนแรกส่งเสริมให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ดี


SCULPTRA ทำร่วมกับหัตการอื่นได้มั้ยคะ ?

       หากต้องการฉีดโบทอกซ์, ฟิลเลอร์ หรือ หน้าใส แนะนำให้ฉีดหลังทำ SCULPTRA ไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ และเว้น 1 เดือน สำหรับหัตถการประเภท ร้อยไหม, เลเซอร์, HIFU, Ultraformer III, Thermage, Ulthera

SCULPTRA กับ Filler ต่างกันอย่างไร ?

       SCULPTRA สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า Filler เป็นอย่างมาก แต่ Filler มีความสามารถในการเพิ่ม Volume ได้ดีกว่า ฉะนั้นการจะเลือกการรักษาตัวใดจึงขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล อีกทั้ง Filler สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่สำหรับ SCULPTRA จะเริ่มเห็นผลหลังฉีดไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ค่ะ





รีวิว SCULPTRA




แสดงความคิดเห็น
บทความอื่นๆ
LBC CLINIC X Erb
เมษานี้ ทำสวยที่ LBC แจกฟรีทุกท่าน !
- โพสเมื่อ 01/04/2024
LBC CLINIC x GRAB เดือนมีนาคม
ตามคำเรียกร้องต่อแคมเปญให้แบบต่อเนื่อง...
- โพสเมื่อ 01/03/2024
ผิวหน้ามีปัญหา ท้าฉีด Juvelook
Juvelook งานผิวอันดับ 1 ปลุกคอลลาเจนใต้ผิวให้สดใหม่ แน่นกระชับ ดูดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก อยู่ได้ยาวนาน 2 ปีค่ะ
- โพสเมื่อ 09/02/2024
LBC Clinic x GRAB
LBC Clinic จับมือ GRAB จัดแคมเปญสุดพิเศษ “ LBC Clinic x GRAB”
- โพสเมื่อ 08/02/2024