รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
โบท็อกซ์ หัตถการความงามด้านการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง แต่ในบางครั้งก็ยังได้ยินข่าวคราวการพบเจอปัญหาที่เป็นผลข้างเคียงตามมาอยู่บางเคส โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลลัพธ์การฉีดโบท็อกซ์แล้วปากเบี้ยว ยิ้มไม่ได้ ยิ้มไม่สุด แต่รู้ไหมว่าเคสแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นง่าย ๆ หรือเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะว่ามีปัจจัยบางอย่างที่ถ้าหากเลี่ยงได้ ก็จะทำให้คุณไปทำสวยด้วยโบท็อกซ์ได้อย่างอุ่นใจแน่นอน!
การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เป็นการใช้สาร Botulinum toxin A ที่มีความปลอดภัยต่อร่างกาย เข้าไปในบริเวณที่ต้องการให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอ่อนแรง และเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่สามารถขยับได้เป็นเวลานาน ๆ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะค่อย ๆ เล็กลง หรือถ้าเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก ก็จะทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการขยับดูจางลงไปได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกซ์ถึงแม้จะปลอดภัย แต่ก็ยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงอย่างคิ้วตก ปากเบี้ยว อันเกิดมาจากฉีดโบท็อกซ์โดนเส้นประสาทหรือไปโดนมัดกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า “ไรซอเรียส” (Risorius) หรือกล้ามเนื้อฉีกยิ้ม และกล้ามเนื้อ “ไซโกมาติก” (Zygomatic) ที่ยึดเกาะตั้งแต่โค้งของกระดูกโหนกแก้ม ลากยาวไปถึงบริเวณมุมปาก และเมื่อโบท็อกซ์เข้าไปยับยั้ง ก็จะทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้หยุดทำงาน ส่งผลให้ไม่สามารถยิ้มหรือขยับได้อย่างที่ควรจะเป็น ภาพรวมจึงดูเหมือนปากเบี้ยว เพราะยิ้มไม่สุดนั่นเอง
อาการข้างเคียงที่เกิดจากโบท็อกซ์เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากเข้ารับหัตถการกับคลินิกและแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ โดยส่วนมากจะเป็นลักษณะอาการที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรง ดังนี้
ความไม่สมมาตรของมุมปาก ดูไม่เท่ากัน มีข้างใดข้างหนึ่งยกหรือตกลง
รู้สึกเกร็ง ไม่สามารถฉีกยิ้มได้เท่าปกติ
ยิ้มไม่ขึ้น มีอาการมุมปากยกไม่ได้ หรือยกได้ไม่เต็มที่
กล้ามเนื้อตาตก หนังตาปิดไม่เท่ากัน
สรุปได้ว่า อาการข้างเคียงที่มาจากโบท็อกซ์ สามารถวัดได้จากความตึงของกล้ามเนื้อที่ทำงานได้ไม่เต็มที่ มีความรู้สึกเกร็ง ออกแรงยกมุมปาก หรือขยับเปลือกตาได้ไม่สุด หรือเริ่มดูไม่เท่ากันอย่างชัดเจน หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว 1-2 สัปดาห์
หากใครเจอผลข้างเคียงจากโบท็อกซ์ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์แล้วปากเบี้ยว หนังตาตก กล้ามเนื้อทำงานไม่เต็มที่ก็อย่าเพิ่งวิตกกังวลใจจนเกินไป เพราะอาการนี้ไม่นับว่าเป็นผลข้างเคียงที่มีอันตรายร้ายแรง ทั้งยังสามารถแก้ไขให้หายได้เหมือนเดิมง่าย ๆ เพราะโดยส่วนมากฤทธิ์ของโบท็อกซ์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ โดยใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ถ้าอาการปากเบี้ยวไม่ได้เป็นชัดมากก็สามารถอดทนรอจนหมดฤทธิ์ได้
แต่สำหรับคนที่ไม่อยากรอ อยากแก้ไขให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ก็สามารถใช้น้ำร้อนประคบในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ไป เพื่อสลายให้หมดฤทธิ์ รวมไปถึงการใช้เครื่องมือกลุ่มยกกระชับอย่าง Thermage, Ultraformer หรือ Hifu ในการแก้ไขได้เหมือนกัน
แพทย์ต้องมีใบประกอบวิชาเวชกรรม ลดการเกิดโอกาสเสี่ยงฉีดผิดตำแหน่ง ที่อาจนำไปสู่การเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้
มีใบอนุญาตเปิดกิจการประกอบโรคศิลป์อย่างถูกต้อง ให้สังเกตจากเลขที่ใบอนุญาตที่จะต้องติดอยู่ในตำแหน่งที่สังเกตได้ชัดเจน และสามารถนำไปใช้ตรวจสอบจากเว็บไซต์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขได้
แพทย์ให้คำแนะนำและประเมินปริมาณยูนิตได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากกล้ามเนื้อของแต่ละคนมีขนาดที่แตกต่างกัน แพทย์ที่ทำหัตถการให้ จึงต้องมีความชำนาญอย่างมากเพื่อประเมินการใช้ปริมาณยูนิตที่เหมาะสมกับขนาดกล้ามเนื้อและปัญหา ซึ่งจะช่วยมอบผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและลดการเกิดผลข้างเคียง จากการแพร่กระจายของตัวยาไปยังกล้ามเนื้อสำคัญ
เปิดขวดและดึงโบท็อกซ์ต่อหน้า ป้องกันการฉีดโบท็อกซ์ปลอม น้ำเกลือ หรือตัวยาหมดอายุที่ทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ประสงค์
มีการดูแลและติดตามผลอยู่เสมอ คลินิกที่ได้มาตรฐานจะมีการติดตามผลหลังจากฉีดโบท็อกซ์อย่างใกล้ชิด ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อดูผลลัพธ์ รวมถึงเฝ้าระวังอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง
บริเวณกราม จุดยอดนิยมในการฉีดปรับรูปหน้า ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามที่ทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยม ดูกว้าง ให้เล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวสวยได้รูป แต่ก็ต้องระวัง เพราะจุดนี้จะอยู่ใกล้กับกล้ามเนื้อไรซอเรียส ซึ่งถ้าได้รับการทำหัตถการจากแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ก็อาจจะทำให้ตัวยากระจายผิดที่หรือฉีดผิดจุด จนเกิดผลข้างเคียงได้
บริเวณกรอบหน้า อีกหนึ่งจุดยอดนิยมของการใช้ Botox เพื่อปรับหน้าเรียว โดยจะใช้เป็นเทคนิคลิฟติ้ง เพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อ ให้ใบหน้าดูเข้ารูป เห็นสันกรามชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในจุดนี้ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะฉีดโบท็อกซ์โดนเส้นประสาท จนทำให้รอยยิ้มและมุมปากดูไม่สมมาตรกันได้ ดังนั้น จึงต้องระวังและควรเลือกคลินิกที่เข้ารับบริการให้ได้มาตรฐานเสมอ
บริเวณหางตาและใต้ตา จุดยอดนิยมสุดท้าย สำหรับคนที่อยากลดอายุผิว เพราะจุดนี้จะเป็นการฉีดเพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ แต่ก็ต้องระวังไม่ฉีดให้มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ตาแข็ง หรือพลาดไปโดนกล้ามเนื้อไซโกมาติก ที่อาจทำให้มุมปากเกร็งตึงตามได้
ถ้าอยากลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการ ก็สามารถเข้ารับโปรแกรมปรับรูปหน้าด้วย Botox ให้หน้าเรียวสวย กับเทคนิคโบท็อกซ์ลดกรามแบบปลอดภัยได้ที่ LBC Clinic จากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาและคำนวณปริมาณที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การันตีกว่า 100,000+ รีวิว ว่าเห็นผลจริง! ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย หรือโทร. 092-391-8811, 02-102-1282 ได้เลย