โบท็อกซ์ลดเหงื่อช่วยกำจัดเหงื่อรักแร้ได้จริงไหม | LBC-Clinic.com
ปิดหน้าต่างนี้
LBC Clinic Line
โบท็อกซ์ลดเหงื่อช่วยกำจัดเหงื่อรักแร้ได้จริงไหม
โบท็อกซ์ลดเหงื่อช่วยกำจัดเหงื่อรักแร้ได้จริงไหม
- โพสเมื่อ 28/08/2020

โบท็อกซ์รักแร้ กำจัดเหงื่อรักแร้ตรงจุด ลดปัญหากลิ่นตัวแรง!

แม้ว่าเรื่องของเหงื่อและกลิ่นตัวจะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ในหลาย ๆ ครั้ง กลิ่นตัวและเหงื่อที่บริเวณรักแร้กลับทำให้ใครหลายคนหมดความมั่นใจได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางคนที่ต้องเผชิญกับภาวะเหงื่อออกเยอะผิดปกติ และเกิดปัญหากลิ่นตัวแรงมาก ไม่ว่าจะแก้ไขด้วยวิธีใดก็ไม่ได้ผล

นอกจากจะตรวจสุขภาพเพื่อหาความผิดปกติ ในปัจจุบันนี้ ทุกคนยังสามารถกำจัดเหงื่อรักแร้ได้ด้วยการทำโบท็อกซ์รักแร้เพื่อลดเหงื่อได้เช่นกัน แล้วโบท็อกซ์ลดเหงื่อจะดีจริงไหม และตอบโจทย์ได้จริงหรือไม่ มาดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

เช็กให้ชัวร์! รู้ได้อย่างไรว่าเรามีเหงื่อออกเยอะและมีกลิ่นตัวผิดปกติ

ปกติแล้วคนเราจะขับของเสียออกมาในรูปแบบเหงื่อเฉลี่ยประมาณวันละ 1 ลิตร แต่หากใครที่รู้สึกว่าในแต่ละวันร่างกายของเรามีเหงื่อออกมากจนเกินไป หรือ สังเกตว่าเหงื่อออกเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งมากผิดปกติ เช่น มือ เท้า รักแร้ หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย แถมยังทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ชัดเจนแม้จะอยู่ในที่อากาศเย็น หรือ บางครั้งถึงแม้จะยังไม่ได้ทำกิจกรรมใด ๆ แค่นั่งอยู่เฉย ๆ ก็มีเหงื่อออกมาก จนมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เราอาจมีปัญหาเหงื่อออกเยอะและกลิ่นตัวผิดปกติ ต้องรีบหาวิธีลดเหงื่อที่เหมาะสม โดยวิธีลดเหงื่อรักแร้นั้นสามารถทำได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ หรือ โบท็อกซ์รักแร้นั่นเอง

Lbc Clinic รักแร้เปียก เหงื่อเยอะ

รักแร้เปียก มีเหงื่อออกมาก เกิดจากอะไร?

โดยทั่วไปแล้ว เวลาที่เหงื่อออกเยอะจะเป็นเวลาที่ร่างกายพยายามระบายความร้อน ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเวลาเราไปอยู่ในสถานที่อุณหภูมิสูง ออกกำลังกายหนัก หรือรู้สึกวิตกกังวล

แต่หากไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่กล่าวมานี้ ไม่แน่ว่า ร่างกายอาจเกิดจากความผิดปกติบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคทางพันธุกรรม โรคประจำตัวอย่างโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจวายเรื้อรัง หรือในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ และบางครั้งก็อาจเกิดจากการใช้ยาบางประเภท ทำให้การรักษาทั่ว ๆ ไปไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาเหงื่อและกลิ่นตัวได้

โดยนอกจากจะปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แล้ว การฉีดโบท็อกซ์รักแร้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดเหงื่อได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์เช่นกัน 

วิธีกำจัดเหงื่อรักแร้ แก้ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์

วิธีลดเหงื่อรักแร้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นจะต้องเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม พร้อมดูแลตัวเองควบคู่กันไป เนื่องจากแต่ละวิธีไม่สามารถแก้ไขปัญหารักแร้เปียกและมีเหงื่อออกมากได้แบบ 100% โดยวิธีลดเหงื่อรักแร้สามารถทำได้ 4 วิธี ดังนี้

  1. ทายา Antiperspirants ในจุดที่เหงื่อออกมาก เพื่อทำหน้าที่อุดต่อมเหงื่อและช่วยลดกลิ่น
  2. ใช้ยาที่ทำหน้าที่ลดการทำงานของระบบประสาท
  3. ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ โบท็อกซ์ลดเหงื่อ เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อโดยตรง
  4. ผ่าตัดหรือจี้ปมประสาทของระบบประสาทอัตโนมัติที่ทำงานควบคุมต่อมเหงื่อ

นอกจากนี้ ควรดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น 

  • ใส่เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่อึดอัดหรือคับจนเกินไป 
  • รักษาความสะอาดร่างกายด้วยการอาบน้ำ 2 ครั้งต่อวันขึ้นไป
  • ดูแลให้เสื้อผ้าและรองเท้าแห้งอยู่เสมอ
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรืออาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้เกิดกลิ่นออกจากร่างกาย
  • ควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีน้ำหนักตัวอยู่ในระดับที่พอดี

การฉีดโบท็อกซ์รักแร้ คืออะไร?

การฉีดโบท็อกซ์รักแร้คืออะไร? การฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ หรือ การฉีดโบท็อกซ์รักแร้ เป็นการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินไปที่บริเวณรักแร้ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อเข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมเหงื่อ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดเหงื่อ ลดอาการอับชื้นที่ทำให้เกิดกลิ่นกาย และยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อที่สร้างกลิ่นได้มากถึง 35-80% ทำให้คนมักเรียกการฉีดโบท็อกซ์รูปแบบนี้ในอีกชื่อว่าโบท็อกซ์ลดกลิ่นรักแร้ เพราะสามารถช่วยจัดการได้ทั้งปัญหาเหงื่อเยอะและปัญหากลิ่นตัวแรงได้อย่างเห็นผล จนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง

การฉีดโบท็อกซ์รักแร้สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดโบท็อกซ์รักแร้อยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดโบท็อกซ์รักแร้จะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่ประสิทธิภาพของตัวยาที่เลือกใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่สามารถฉีดโบท็อกซ์อุดต่อมเหงื่อได้ถูกจุด ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังทำการรักษา  

โดยปกติแล้ว โบท็อกซ์ลดเหงื่อจะเริ่มเห็นผลความเปลี่ยนแปลงหลังฉีดประมาณ 1 - 3 วัน และผลการรักษาจะอยู่ได้ยาวนาน 4 - 6 เดือนขึ้นไปต่อครั้ง สามารถฉีดซ้ำเพื่อย้ำให้ต่อมเหงื่อค่อย ๆ ลดการทำงานในระยะยาวได้ แต่ควรเว้นระยะห่างการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 3 เดือนขึ้นไป

ฉีดโบท็อกซ์รักแร้เจ็บไหม?

หลาย ๆ คนคงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า การฉีดโบท็อกซ์รักแร้นั้นเจ็บไหม ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่การฉีดยาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดบ้าง แต่คลินิกที่ได้มาตรฐานจะเลือกอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณเจ็บน้อยที่สุด เช่น 

  • เข็มฉีดยาที่มีปลายเข็มเรียวเล็กเป็นพิเศษ 
  • มีการใช้ยาชาหรือน้ำแข็งประคบก่อนฉีดเพื่อบรรเทาความเจ็บ
  • ใช้ตัวยาที่มีความพิเศษเพื่อช่วยทำให้เจ็บน้อยลง หรือบางคนอาจไม่รู้สึกเจ็บเลย

ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์รักแร้

การฉีดโบท็อกซ์รักแร้สามารถลดเหงื่อที่รักแร้ได้มากถึง 35% - 80% รู้สึกได้เลยว่าเสื้อช่วงใต้วงแขนไม่เปียกเป็นวงอีกต่อไป ทำให้รู้สึกสบายตัวตลอดวัน ลดกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ และลดกลิ่นที่เกิดจากต่อมเหงื่อได้โดยตรง 

ผลลัพธ์เหล่านี้จะคงอยู่ได้ประมาณ 4 - 6 เดือน และตัวยาจะสลายไปตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกายและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงใด ๆ

รู้แบบนี้แล้ว หากใครกำลังรู้สึกหมดความมั่นใจและเสียบุคลิกจากเหงื่อรักแร้ กลิ่นตัวแรง และรอยเปียกที่ใต้วงแขน อย่าลืมรีบมาพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขที่ตอบโจทย์ตัวเองที่สุด เช่น การฉีดโบท็อกซ์รักแร้ หรือ โบท็อกซ์ลดเหงื่อ ทั้งนี้ ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐานและแพทย์ผู้ฉีดจะต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณที่ต้องการจะฉีดด้วยนะคะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด

ก่อน-หลังทำ โบรักแร้
ลดเหงื่อรักแร้

แสดงความคิดเห็น
บทความอื่นๆ
ฉีดโบท็อกซ์ปากเบี้ยว ไม่ใช่สิ่งที่เกิดได้ทุกเคส
ตอบชัด! การฉีดโบท็อกซ์แล้วปากเบี้ยว ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน พร้อมแนะนำวิธีเลือกบริการโบท็อกซ์ปรับรูปหน้าให้อุ่นใจ เลือกอย่างไรให้ฉีดแล้วสวยเป๊ะ
- โพสเมื่อ 17/04/2024
LBC CLINIC X Erb
เมษานี้ ทำสวยที่ LBC แจกฟรีทุกท่าน !
- โพสเมื่อ 01/04/2024
LBC CLINIC x GRAB เดือนมีนาคม
ตามคำเรียกร้องต่อแคมเปญให้แบบต่อเนื่อง...
- โพสเมื่อ 01/03/2024
ผิวหน้ามีปัญหา ท้าฉีด Juvelook
Juvelook งานผิวอันดับ 1 ปลุกคอลลาเจนใต้ผิวให้สดใหม่ แน่นกระชับ ดูดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก อยู่ได้ยาวนาน 2 ปีค่ะ
- โพสเมื่อ 09/02/2024