อยากใส่เสื้อผ้าแขนกุด แต่ต้นแขนไม่สวย ไม่อำนวย ❗️ แต่ไม่รู้ว่าต้องลดต้นแขนยังไง ลดตรงไหน ถึงจะถูกต้อง?
โดยการใช้ตัวยาสลายไขมันฉีดเข้าบริเวณที่มีการสะสมของไขมัน หรือการฉีดโบทอกแขน ตัวยาจะเข้าไปสลายไขมันเป็นก้อนให้แตกตัว จากนั้นจะค่อย ๆ ถูกขับออกทางเหงื่อ และปัสสาวะ ระยะเวลาเห็นผลประมาณ 7-14 วันหลังฉีด สามารถทำซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีได้ทุก 7 วัน ยิ่งถ้าทำต่อเนื่องเป็นประจำ รับรองว่ามีเพื่อนทักแน่นอนว่าแขนเรียวสวย เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
หากเป็นแบบนี้แนะนำการใช้โบทอกกล้ามแขนเพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวให้เล็กลง จะรู้สึกได้ถึงความเรียว แต่อาจรู้สึกเมื่อยล้าในช่วงแรกหลังฉีดได้ ระยะเวลาเห็นผล อยู่ที่ 2-4 สัปดาห์หลังฉีด อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมาตามการใช้งาน
![]() |
![]() |
ซึ่งวิธีสังเกตระหว่างสองแบบนี้ที่ง่ายที่สุดก็คือถ้าใช้มือจับบริเวณท้องแขนแล้วรู้สึกเนื้อเหลวนุ่มนิ่ม ก็จะเข้าข่ายเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสม เหมาะกับการฉีดโบทอกลดกล้ามแขนนั่นเอง
ถ้าเป็นฉีดสลายไขมัน Lipo V แนะนำให้ฉีดทุก 7 วัน โดยส่วนใหญ่จะฉีดติดต่อกันเป็นเวลา 3-4 ครั้ง จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น
ถ้าเป็นฉีดโบลดกล้ามแขน เห็นผลเต็มที่ภายใน 1 เดือน ผลลัพธ์คงอยู่ได้ 4-6 เดือน เติมครั้งใหม่สามารถฉีดได้ทุก 4-6 เดือนเช่นกัน
1. หลังการฉีดโบทอกต้นแขน ผู้เข้ารับบริการจำเป็นจะต้องดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้ไขมันถูกขับออกให้ได้มากที่สุด
2. งดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์
3. เพื่อให้การสลายไขมันได้ผลดีมากยิ่งขึ้น ผู้เข้ารับบริการควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารควบคู่ไปด้วย โดยให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง
4. ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เล่นโยคะ เดินเร็ว ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ไขมันสลายออกไปได้เร็วขึ้น
5. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรฉีดซ้ำทุก 7 วัน พอใจแล้วสามารถหยุดได้ทันทีหลังจากนั้นควบคุมน้ำหนักเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนานมากขึ้น