รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
สาวๆ หลายคนคงมีปัญหาหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส รูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่เรียบเรียน ใช้ครีมเท่าไหร่หน้าก็ไม่ดีขึ้นกันใช่มั้ยคะ การฉีดมาเด้และเมโสเป็นการฉีดผิวที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สามารถช่วยบำรุงผิวหน้า ขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว ลดสิว ผดผื่น ผิวอักเสบ และช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นได้ให้ผลชัดเจนกว่าการใช้คอลลาเจนแบบทาและแบบรับประทานมาก แต่การฉีดมาเด้หรือเมโสต่างกันยังไง ตัวไหนจะช่วยตอบโจทย์แต่ละปัญหาของสาวๆกันนะ มาดูกันเลยค่ะ
คือการใช้เข็มฉีดยาสะกิดบนผิว ซึ่งจะทำให้ตัวยาสามารถลงไปลึกถึงชั้นผิว มากกว่าการทาครีมโดยปกติจะนิยมใช้ตัวยาที่มีผล ต่อการสร้างอิลาสตินบนผิว
ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดริ้วรอย รอยดำ ฝ้า กระได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน
คือการใช้ยาที่มีการกระตุ้นคอลลาเจนและวิตามินที่มีความสำคัญต่อผิวฉีด16จุดทั่วใบหน้าทำให้มีเกิดกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนังได้ดีขึ้น
ทำให้ผิวสดใส ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว ลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว และช่วยให้หน้าฉ่ำวาว กระจ่างใส ดูสุขภาพดี
การฉีดเมโสจะใช้วิธีฉีดยาสะกิดบนผิว ไปทั่วใบหน้า หรือฉีดเข้าทางใบหน้า
ส่วนการฉีดมาเด้การใช้เข็มฉีดยาจิ้มลงไปบริเวณจุดฝังเข็ม 16 จุดทั่วใบหน้า (Homeopathy)
สภาพผิวแบบไหนเหมาะกับการทำเมโสและมาเด้
1.คนที่ขี้เกียจทาครีม และต้องการผลที่ไวกว่าการทาครีม
2.คนที่ไม่มีเวลาดูแลตนเอง อดนอน ทำงานหนัก
3.คนที่มีปัญหาสิวและผดผื่น หน้าไม่เนียน
ฉีดมาเด้ และ เมโส เห็นผลได้ในกี่วัน และต้องทำบ่อยแค่ไหน
เมโส เห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 7-14 วัน และอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน โดยปกติเมโสหน้าใสจะฉีดอาทิตย์ละครั้งใน1 เดือนแรก และหลังจากนั้นฉีดทุก ๆ 2 อาทิตย์เพื่อคงสภาพ
มาเด้ จะเริ่มเห็นผลทันทีหลังฉีด และควรเข้ารับการดูแลทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่องจะเห็นผลได้ดี หลังจากนั้นอาจทำ 2 สัปดาห์/ครั้ง เพื่อคงสภาพ
หลังฉีดมาเด้และเมโสสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาจจะพบรอยแดงหรือตุ่มบริเวณรอยเข็ม แต่จะหายไปเองใน 3-4 ชั่วโมง ไม่ควรเช็ดถูหรือเกาบริเวณที่ฉีด ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า วันต่อไปสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติเลยค่ะ
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควร ฉีดมาเด้หรือเมโสที่ไหนดี LBC Clinic เลอบิวทิส ยินดีให้คำปรึกษาความสวยกับคุณหมอประจำคลินิกฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ