รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
อายุที่มากขึ้นสิ่งที่เยอะตามมาด้วยคือปัญหาผิว คอลลาเจนที่ถดถอยนำมาซึ่งหลายปัญหา ทั้งในเรื่องริ้วรอย ผิวหย่อน เหี่ยวไม่กระชับ รวมถึงร่องลึก ได้เวลาปลุกผิวให้เฟิร์ม เติมความปังไม่ให้พังตามกาลเวลาด้วย SCULPTRA แล้วค่ะ The First & Original Collagen Biostimulator ที่จะมากู้ความเฟิร์ม เด้ง อิ่มฟู ให้กับผิว และจึ้งกว่าด้วยผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 2 ปี วันนี้ LBC CLINIC นำมาให้ได้ลองกันแล้วค่ะ
SCULPTRA คือ ตัวกำเนิดคอลลาเจนในรูปแบบฉีด ประกอบด้วย PLLA (Poly-L-Lactic acid) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทั้งเติม ทั้งแน่น ทั้งยกกระชับใบหน้า สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี คงรูปได้ดีกว่าฟิลเลอร์
โดย PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid เป็น Biostimulator ตัวแรก ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา และถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างใต้ชั้นลึกของผิว เพื่อยกกระชับ และลดริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับผิว ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง เรียบเนียน แต่เมื่ออายุ 25+ คอลลาเจนตามธรรมชาติจะลดลง 1.5% ทุกปี และเมื่ออายุ 30+ การสร้างคอลลาเจนจะลดลงเหลือเพียง 20-30% ส่งผลให้ผิวหน้าดูแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอยร่องลึก และความหย่อนคล้อย
คอลลาเจนจึงมีส่วนสำคัญ ยิ่งผิวมีคอลลาเจนเยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยชะลอริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิวที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย ช่วยยืดอายุผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ดูเฟิร์มขึ้นนั่นเอง
ซึ่งพบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย และสำคัญที่สุด ช่วยในการเสริมความยืดหยุ่น การสมานแผล สามารถพบได้ในผิวหนัง, เส้นผม, กระดูก, เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด
คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II)
เป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดที่ 1 พบมากในกระดูก, กระดูกอ่อน และข้อต่อ มีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน
คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III)
มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว, กล้ามเนื้อ, ผนังหลอดเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 10 %
คอลลาเจนประเภทที่ 4 (Collagen Type IV)
เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ, ไขมัน นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท และเส้นเลือดอีกด้วย
คอลลาเจนชนิดที่ 5 (Collagen Type V)
สามารถพบได้ในบริเวณเดียวกันกับชนิดที่ 1 เป็นคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ และเส้นผม
ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
ผิวขาดความยืดหยุ่น ย้วย ไม่เฟิร์ม
มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดซึ่งเกิดขึ้นตามวัย
ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน
เพราะ SCULPTRA เป็นอนุภาคของกรด Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนธรรมชาติของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงฟื้นฟูโครงสร้างภายในชั้นลึก ซึ่งถือว่า SCULPTRA ตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเหมาะมากๆ กับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดที่ยาวนาน เพราะจากการวิจัยพบว่า SCULPTRA สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวอย่างต่อเนื่อง
เติมเต็มคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวแน่นขึ้นอย่างเป็นระเบียบ
ลดเลือนริ้วรอย ผิวเต่งตึงเรียบเนียนขึ้น
คืนความสมดุลให้ผิวอิ่มน้ำ ละเอียด แก้ปัญหาผิวหยาบกร้านได้
จุดที่สามารถฉีด SCULPTRA ได้ คือ ขมับ, หน้าแก้มช่วงโหนกแก้ม, แก้มตอบ และกรอบหน้า
การคำนวนปริมาณ CC ที่ใช้ จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยเบื้องต้น SCULPTRA 1 ขวด (10 CC) จะเท่ากับช่วงอายุ 10 ปี เช่น อายุ 30 ปี ควรฉีด SCULPTRA 3 ขวด (30 CC) โดยสามารถแบ่งฉีดเป็นเดือนละครั้ง ครั้งละ 1 ขวด 10 CC ทั้งนี้คุณหมอจะเป็นคนประเมินให้ค่ะ
หลังจากฉีด SCULPTRA เข้าสู่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแล้ว ตัวยาจะเริ่มกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เติมเต็มช่องว่างที่ทำให้เกิดรอยพับริ้วรอย ส่วนสารสำคัญใน SCULPTRA จะค่อยๆถูกดูดซึม และมีการเปลี่ยนแปลงเป็น Lactic acid ไปกระตุ้นการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน โดยผ่านการเรียกเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า มาโครฟาจ มาช่วยในการทำงาน โดยกระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 5 หลังรับการรักษา และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ผลิตคอลลาเจนของตัวเองอีกครั้ง ทำให้คืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
ผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิต Collagen type1 ได้มากเทียบเท่ากับ SCULPTRA เลยในตอนนี้
ตัวยาของ SCULPTRA จะค่อยๆ เข้าไปทำปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึก ซึ่งเมื่อเข้าสู่วันที่ 5 ของการรับการรักษา การผลิตคอลลาเจนจึงเริ่มต้นขึ้น โดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วันก่อนจะสังเกตผลลัพธ์ได้ชัดเจน
ผลลัพธ์หลังการรักษาจะอยู่ได้นานถึง 25 เดือน หรือ 2 ปี เพราะเป็นการคงอยู่ของคอลลาเจนที่สร้างขึ้นด้วยตนเองตามธรรมชาติ โดยในบางรายอาจอยู่ได้ถึง 3 ปี ขึ้นกับการดูแลแต่ละบุคคล
การฉีด SCULPTRA นั้นจะต้องผ่านการประเมินกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญก่อน เนื่องจากปัญหา และจำนวนการรักษาของแต่ละคนไม่เท่ากัน หากคนไหนที่มีปัญหาเยอะมาก อาจต้องทำประมาณ 2-4 ครั้ง โดยห่างกันทุก 4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีพอใจสูงสุดค่ะ
อาการทั่วไปจะมีเพียงอาการบวม แดง ช้ำและมีอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งหายได้เองใน 2-3 วันหลังฉีด
ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ก้อนเล็กๆใต้ผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีด SCULPTRA ทุกวันหลังฉีดประมาณ 5 วัน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
คือ การทำให้ตัวยาดูดซึมกระจายเข้าสู่พื้นผิวให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลังฉีดจะต้องทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน และต้องทำติดต่อกัน 5 วัน โดยสเต็ปการนวดมี 4 ท่า
Step ที่ 1 ใช้นิ้วโป้งของเรานวดขมับทั้ง 2 ข้างแล้วใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากหน้าผากไปขมับ
Step ที่ 2 ยกนิ้วโป้งขึ้น แนบไปตรงหน้าแก้ม ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนจากหน้าแก้มไปข้าง ๆ แก้ม
Step ที่ 3 ใช้อุ้งมือกดช่วงข้าง ๆ แก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากล่างขึ้นบนไปถึงตรงโหนกแก้ม
Step ที่ 4 ท่าสุดท้าย ทำมือคล้าย ๆ กับท่าที่สอง ยกนิ้วโป้งขึ้น เริ่มจากที่คางไล่ไปตามแนวกรามกรอบหน้าด้านข้าง
1. ไม่ควรใช้ SCULPTRA ในผู้ที่แพ้ส่วนผสมใดๆ ของผลิตภัณฑ์ : poly-L-lactic acid” (PLLA), carboxymethylcellulose (USP) , non-pyrogenic mannitol (USP)
2. ผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
3. ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
4. ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำ
5. ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ หลังฉีด 2-3 ชั่วโมง
ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา ให้ประคบเย็น เพื่อลดอาการปวด บวมช้ำ
ใน 24 ชั่วโมงแรก งดออกกำลังกายหนัก งดซาวน่า และงดออกแดดจัด
นวดกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ ทำการนวดครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
แนะนำรับประทานวิตามินซี วันละ 1,000 มิลลิกรัมทุกวันในช่วง 3 เดือนแรกส่งเสริมให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ดี
หากต้องการฉีดโบทอกซ์, ฟิลเลอร์ หรือ หน้าใส แนะนำให้ฉีดหลังทำ SCULPTRA ไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ และเว้น 1 เดือน สำหรับหัตถการประเภท ร้อยไหม, เลเซอร์, HIFU, Ultraformer III, Thermage, Ulthera
SCULPTRA สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า Filler เป็นอย่างมาก แต่ Filler มีความสามารถในการเพิ่ม Volume ได้ดีกว่า ฉะนั้นการจะเลือกการรักษาตัวใดจึงขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล อีกทั้ง Filler สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่สำหรับ SCULPTRA จะเริ่มเห็นผลหลังฉีดไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ค่ะ