รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
แคปรับโปรพิเศษ!!
รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
มีคนเคยบอกว่า อย่าสนใจรูปร่างหน้าตาภายนอกมากเกินไปจนทำให้เราไม่สบายใจ จะบอกว่าไม่จริงค่ะ คนเราควรสนใจรูปร่างภายนอกของตัวเองบ้าง ไม่ใช่เพียงเพราะแค่รักษารูปลักษณ์ความสวยความงามภายนอกให้ดูดี แต่ยังเป็นการตรวจร่างกายว่า สุขภาพของเราดีหรือไม่ มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเรารึเปล่า หนึ่งในอาการนั้นคือ หนอกคอ ที่เราอยากให้คุณได้รู้จัก และหาวิธีป้องกัน-แก้ไขเมื่อพบเจอ เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
หนอกคอ หรือหนอกหลัง (Buffalo Hump) เป็นภาวะหนึ่งที่ร่างกายเกิดการสะสมไขมันจนเกิดการกระจุกตัวอยู่ในช่วงบริเวณด้านหลังคอเป็นก้อนที่เห็นได้ชัดตามหลัง ตามส่วนคอ คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้ชัด แม้จะไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อาจส่งผลถึงภาพลักษณ์และบุคลิกภาพได้ นอกจากนี้ หนอกหลังหรือคอยังอาจส่งสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่คุณควรระวังได้อีกด้วย
ถามว่าทำไมเราถึงมีหนอก? หนอกคอหรือหนอกหลัง เกิดจากอะไรได้บ้าง? ปกติแล้วสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
1. หนอกคอเกิดจากการสะสมไขมันในร่างกาย
ส่วนใหญ่ที่เราพบเจอปัญหาหนอกคอ มักจะพบว่ามีสาเหตุมาจากการสะสมไขมันเฉพาะส่วนที่มากเกินพอดี โดยมีต้นเหตุมาจาก 3 กรณี
1.1) ร่างกายอยู่ในภาวะอ้วน มีค่า BMI ไม่สมส่วน เมื่อมีการกินอาหารเป็นจำนวนมากเกินพอดี ไม่เหมาะสมกับที่ร่างกายควรได้รับไปใช้ในแต่ละวัน ก็จะเกิดการสะสม กระจายไปตามร่างกาย รวมถึงอาจเกิดหนอกหลังคอด้วย
1.2) ร่างกายสะสมสเตียรอยด์จากยาลูกกลอนที่เราทานเป็นประจำ สำหรับใครที่ทานยาหม้อหรือยาลูกกลอนเป็นประจำ ต้องระวังเรื่องส่วนผสมในตัวยาเสมอ เพราะเราไม่สามารถเช็กได้ว่าภายในตัวยาเขาใส่อะไรมาบ้าง บางครั้งอาจใส่สเตียรอยด์มา ซึ่งทำให้เกิดการสะสมภายในร่างกายและส่งผลเสียในระยะยาว อาการที่จะเห็นได้ชัดคือ ช่วงบนมีไขมันมากเกินไป เกิดหนอกหลังคอ แขนขาอ่อนแรง เนื้อช้ำง่าย ฯลฯ
1.3) ผลข้างเคียงจากการรักษาโรคหรือยาบางตัว เช่น เบาหวาน ความดัน HIV ฯลฯ
2. หนอกคอเกิดจากไลฟ์สไตล์
สำหรับคนที่ชอบวางท่าทางหรือขยับตัวผิดท่าบ่อย ๆ พอมีอายุมากขึ้นจะเริ่มเห็นผลเสียว่า หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพ และมวลกระดูกเปราะบาง พอถูกแรงกระแทกบ้างก็ทรุดตัวแล้วทำให้หลังค่อม รวมถึงเกิดหนอกคอเพิ่มขึ้นมาแทนได้
หากปล่อยปัญหาหนอกคอทิ้งไว้โดยที่ไม่หาสาเหตุและแก้ไข อาจเกิดผลเสียในระยะยาวได้ เช่น กล้ามเนื้อในส่วนบริเวณไหล่และลำคอเกิดอาการเมื่อยล้า ตึง หรือเจ็บได้ง่าย ส่งผลต่อการใช้ชีวิตตามปกติในแต่ละวัน ฯลฯ บางครั้งอาจส่งผลลามไปถึงสมองและระบบประสาท เช่น เวียนหัวง่าย มึนงง ร่างกายเกิดความเครียด ไม่สบายตัวได้ง่ายกว่าปกติ อาจส่งผลถึงเรื่องการนอนที่ไม่สบายตัว นอนหงายได้ลำบากมากขึ้น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันและระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ด้อยประสิทธิภาพลง ฯลฯ อีกทั้งยังอาจส่งผลถึงเรื่องบุคลิกภาพและความมั่นใจด้วย แม้จะไม่ได้รู้สึกเจ็บที่หนอกคอเฉพาะจุด แต่การที่มีหนอกขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วยไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นไปได้ควรรีบพบแพทย์เพื่อรักษาโดยด่วน
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ถ้าหนอกเกิดขึ้นเพราะไขมันสะสมในร่างกาย อย่างนั้นแล้วก็ต้องสามารถเอาออกได้ด้วยการลดน้ำหนักหรือออกกำลังกายสิ จะบอกว่าเป็นวิธีการคิดที่ผิดนะคะ เพราะร่างกายได้เกิดภาวะผิดปกติแล้ว คุณควรที่จะหาวิธีเพื่อเอาก้อนไขมันเฉพาะจุดนั้นออกโดยทันทีด้วยวิธีลดหนอกหลังคอเหล่านี้
1. รักษากระดูก
สำหรับใครที่มีหนอกคอจากการที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกพรุนและทรุดตัว อาจเริ่มต้นรักษาจากการซ่อมกระดูกด้วยการฉีดสารเติมเต็มกระดูก เพื่อให้กระดูกมีความแข็งแรง จากนั้นแพทย์จะดูอาการและประเมินอีกครั้งว่า จำเป็นต้องใช้วิธีลดหนอกคออื่นร่วมด้วยเพื่อนำเอาก้อนไขมันนั้นออกจากร่างกายคุณหรือไม่
2. ใช้การดูดไขมัน หรือคลื่นสลายไขมัน
สำหรับใครที่ต้องการสลายไขมันลดหนอกหลังแบบไม่อาศัยการผ่า และมีงบสูง อาจเลือกใช้การสลายไขมันเฉพาะจุดตามคลินิกด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ดูดไขมัน หรือใช้คลื่นสลายไขมันอย่าง RF หรือ Hifu ก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องผ่านการประเมินจากแพทย์เช่นกันว่าเหมาะสมหรือไม่
3. ฉีดสลายไขมัน
เป็นวิธีการเลือกใช้สารที่มีคุณสมบัติสลายไขมันโดยเฉพาะ เพื่อกระตุ้นการสลายไขมันอย่างตรงจุดในบริเวณหนอกคอที่ฉีด ปริมาณในการฉีดขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและไขมันที่สะสมด้วย เน้นฉีดลงใต้ชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการนำไขมันที่สะสมอยู่เดิมทยอยไปใช้ตามร่างกายได้เหมาะสม และระบบต่อมน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้น ผิวที่เคยเป็นหนอกนูนออกมาไม่ย้อยหรือห้อยจนน่าเกลียด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาหนอกคอในขณะนี้แล้ว อย่าลืมนะคะ รีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธีโดยด่วน หลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่เสี่ยงจะต้องพบเจอในระยะยาว เพราะการคิดเองว่าต้องลดหนอกหลังคอด้วยวิธีไหน นอกจากจะเสี่ยงรักษาไม่ถูกวิธี ทำให้อาการไม่ดีขึ้นแล้ว ยังเหมือนเป็นการปล่อยทิ้งปัญหาไว้ให้แก้ไขยากขึ้นด้วย หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถปรึกษาได้เลยนะคะ เรายินดีให้บริการทุกท่านค่ะ
 |
 |