อยากแต่งตัวสวย ๆ ด้วยเสื้อโชว์แขนหรือเกาะอก แต่ดันเจอปัญหาเนื้อปลิ้น เนื้อล้น จนกลายเป็นเหมือนว่ามีนมน้อยเพิ่มมาที่ใต้รักแร้อีกก้อน ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้เกิดจากน้ำหนักตัวเกินแต่อย่างใด ใครที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ เพราะเรากำลังจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเจ้านมน้อยว่าคืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร และควรแก้ไขด้วยวิธีสลายไขมันนมน้อยแบบใดบ้าง มาดูกันค่ะ
ไขมันส่วนเกินใต้รักแร้ หรือนมน้อยเป็นภาวะที่เกิดเนื้อช่วงใต้รักแร้ หรือช่วงใต้หน้าอกล้นออกมา ทำให้ดูเหมือนมีนมน้อย ๆ เพิ่มเกินมาจากหน้าอกปกติอีกคู่ ซึ่งบางคนอาจเกิดการพัฒนาเนื้อเยื่อจนกลายเป็นมีหัวนม หรือของเหลว เช่น น้ำนม หรือเลือด ฯลฯ ไหลออกมาได้ รวมถึงอาจจะมีอาการเจ็บ ตึง หรือไม่สบายตัวร่วมด้วย โดยที่อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดแค่เฉพาะในเพศหญิงเท่านั้น แต่ยังอาจพบในเพศชายได้ด้วยเช่นกัน
อาการไขมันส่วนเกินใต้รักแร้ หรือนมน้อยอาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งเราควรที่จะทราบสาเหตุไว้เพื่อรักษาให้ถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสลายไขมันใต้รักแร้ หรือจะเป็นการผ่าตัดรักษาตามอาการ ก็ต้องดูที่สาเหตุของการเกิดนมน้อยดังนี้
1) เนื้อเยื่อผิดปกติ
ปกติในส่วนของเต้านมคนทั่วไปจะประกอบไปด้วย หัวนม ลานนม ต่อมน้ำนม และท่อน้ำนม ซึ่งถูกคลุมด้วยชั้นผิวหนัง ไขมัน และเนื้อเยื่อ เมื่อร่างกายเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามวัย บางครั้งเนื้อเยื่ออาจเติบโตแบบผิดรูปคือ มีขนาดใหญ่เกินไปจนเนื้อในส่วนนั้นล้นผิดปกติ มองจากภายนอกเห็นเป็นเนินหรือใหญ่ออกมาเป็นเต้านมน้อย และอาจเห็นเป็นจุดเหมือนหัวนมด้วย หากเกิดจากสาเหตุนี้คุณควรที่จะรีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อเข้ารับการผ่าตัดที่ถูกวิธี ไม่สามารถทำการรักษาด้วยวิธีการฉีดสลายไขมันนมน้อยได้
2) เซลล์เต้านมผิดปกติจากฮอร์โมน
กรณีนี้มักพบในเพศหญิง กลุ่มคนที่อยู่ในช่วงฮอร์โมนไม่ปกติอย่างกำลังมีประจำเดือน กำลังตั้งครรภ์ เพิ่งคลอดลูก หรือทานยาเกี่ยวกับฮอร์โมน/ทานยาเพิ่มขนาดหน้าอก พอฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไปอาจส่งผลให้เซลล์เต้านมกระจายไปเติบโตแบบปกติตามแนวเต้านม (Milk line) เช่น ใต้รักแร้ กึ่งกลางอกและไหล่ ไปจนถึงช่วงสะดือได้
3) ไขมันส่วนเกินจนเกิดนมน้อย
หลายครั้งที่ร่างกายไม่ได้เกิดอาการผิดปกติจากร่างกายตัวเองอย่างเดียว แต่อาจเกิดได้จากพฤติกรรมด้วยอีกส่วนหนึ่ง อย่างเช่น การทานอาหารในปริมาณที่มากเกินพอดีจนไขมันไปสะสมตามร่างกายรวมถึงช่วงใต้รักแร้จนเกิดเป็นนมน้อย หรือการใส่เสื้อหรือชุดชั้นในที่รัดแน่นมากเกินไป
แม้ว่าการที่เรามีไขมันส่วนเกินใต้รักแร้จนเป็นนมน้อยจะไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย แต่ก็อาจส่งผลถึงความมั่นใจ และความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวัน เราจึงต้องรีบหาวิธีแก้ไขเพื่อเอานมน้อยเหล่านี้ออกไปจากชีวิต ซึ่งมีทั้งวิธีเบื้องต้นอย่างการดูแลสุขภาพ การฉีดสลายไขมันใต้รักแร้ จนไปถึงด้วยวิธีการผ่าตัด จะมีวิธีไหนบ้างต้องไปดูกัน
1) ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
เบื้องต้นคือ ควรปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และดูแลร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง ห่างไกลจากไขมันส่วนเกิน เพื่อรักษาอาการนมน้อยในระดับหนึ่งและป้องกันไม่ให้อาการนี้กลับมาเกิดอีกในระยะยาว ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอดีกับที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน และออกกำลังกายบ้างเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และผิวกระชับ
2) ผ่าตัด
สำหรับใครที่มีเต้านมส่วนเกินแบบผิดปกติ เช่น มีหัวนม หรือมีของเหลว เช่น เลือด หรือน้ำนม ฯลฯ ไหลออกมาด้วย ควรแก้ไขด้วยการผ่าตัด เพื่อแก้ไขส่วนที่ผิดปกติเหล่านั้น ช่วยให้สามารถแก้ไขได้ตรงจุด เห็นผลไว และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดกับเต้านมได้ แต่ด้วยความที่เป็นผ่าตัดใหญ่ คุณจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อมั่นใจได้ว่า ในระหว่างที่พักฟื้นประมาณ 6 เดือน คุณจะดูแลแผลได้ดี ไม่มีอาการแทรกซ้อน
3) ฉีดสลายไขมันใต้รักแร้
อีกหนึ่งวิธีที่ดีในการแก้ปัญหาไขมันล้นใต้รักแร้จนเป็นนมน้อยคือ การฉีดสลายไขมันใต้รักแร้ เนื่องจากเห็นผลชัดเจน ไวทันใจ ไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียเวลาพักฟื้นเป็นเวลานาน การฉีดลดไขมันใต้รักแร้นั้นสามารถตอบโจทย์การลดขนาดเต้านมส่วนเกินในขนาดน้อย-ปานกลาง และอาจหย่อนคล้อยร่วมด้วยเล็กน้อย
การฉีดสลายไขมันนมน้อยถือว่าดีและตอบโจทย์มากที่สุดสำหรับการแก้ไขนมน้อย เพราะความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียและผลกระทบน้อยที่สุด บวมหรือช้ำน้อย ไม่เจ็บมาก เพราะในตัวยาผสมกับยาชาเรียบร้อย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังฉีดหนึ่งวัน ไม่เกิดอาการแขนล้า สารที่ถูกนำมาฉีดสลายไขมันในตัวยาแท้จะสลายไปเอง ไม่ตกค้างในร่างกาย และกลไกของการฉีดสลายไขมันใต้รักแร้คือ ไขมันจะสลายไปเองตามธรรมชาติในส่วนที่สะสมตรงจุด ไม่ต้องฉีดบ่อย ๆ หรือกังวลกับกระบวนการสลายไขมันของร่างกาย แต่ร่างกายยังคงทำงานได้ดี ระบบไหลเวียนของเลือดและต่อมน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้น เนื้อเยื่อในบริเวณที่ฉีดจะมีความแน่น กระชับ และแข็งแรงมากขึ้น
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเข้าใจไขมันส่วนเกินใต้รักแร้ หรือนมน้อยมากขึ้นนะคะ หากใครที่กำลังกังวลกับปัญหานี้แล้วยังไม่มั่นใจว่าควรรักษาด้วยวิธีไหนดี ถ้าเป็นไปได้ขอแนะนำให้ควรปรึกษาแพทย์ในคลินิกเพื่อประเมินความเหมาะสมของวิธีการรักษาของร่างกายแต่ละท่านก่อนเข้ารับการรักษาจริง และก่อนเริ่มทำการฉีดลดไขมันใต้รักแร้นั่นเองค่ะ
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |