เหนียงหรือคางสองชั้น (Double Chin) อาการที่ใต้คางและคอหนาขึ้น ทำให้เวลาส่องกระจกหรือถ่ายรูปจะเห็นคางสองชั้นที่ชัดเจนมาก ทำให้ใครหลายคนสูญเสียความมั่นใจ แต่เราสามารถกำจัดเหนียงให้ออกไปจากชีวิตได้ ทั้งเหนียงกรรมพันธุ์ที่ส่วนใหญ่มักเกิดกับคนผอมและเหนียงพันธุกรรมที่มักเกิดในคนอ้วน โดยเหนียงจะเกิดจากไขมันใต้ชั้นผิวหนังไปสะสมอยู่บริเวณใต้คางมากเกินไป ดังนั้น ทุกคนที่กำลังมองหาวิธีลดเหนียง คืนรูปหน้าใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมอย่ากลัวไปค่ะ เราสามารถกำจัดออกได้ด้วยหลายวิธีที่ปลอดภัยต่อร่างกายและเห็นผลชัวส์ โดยวันนี้เราจึงมาแฉความลับหน้าวี เหนียงเคยมีแต่ตอนนี้เรียวมาก มาฝากทุกคนกันค่ะ
- โยคะใบหน้า หนึ่งในวิธีการลดเหนียงอย่างเห็นผล สามารถทำได้ทุกวัน เพียงแค่ตื่นเช้าหรือก่อนนอน ทำตามท่าเหล่านี้อย่างต่อเนื่องทุกวัน ภายใน 3 เดือน จะเริ่มเห็นผลแน่นอน
ท่าที่ 1 – เงยหน้าขึ้น อ้าปากค้างไว้ ให้ส่วนคอและเหนียงรู้สึกตึง ทำค้างไว้ 30 วินาที
ทำครั้งละ 5 เซ็ต
ท่าที่ 2 – เงยหน้าค้างไว้ให้คอตึง ทำค้างไว้ 30 วินาที ทำครั้งละ 5 เซ็ต
ท่าที่ 3 – เงยหน้าขึ้น ทำปากจู๋ ให้ส่วนคอและเหนียงรู้สึกตึง ทำค้างไว้ 30 วินาที ทำครั้งละ 5 เซ็ต
โดยเราสามารถทำตามท่าเหล่านี้สลับกันไปมา อย่างน้อย 30 นาที ต่อเนื่องทุกวัน รับรองว่าภายใน 3 เดือน เราจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นค่ะ
- นวดหน้าวีเชฟ เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งทุกครั้งที่เราทาครีมเช้าและก่อนนอนก็เปลี่ยนมาใช้วิธีการนวดครีมบนใบหน้าแทนการทาครีม โดยการแตะครีม 5 จุดสำคัญบนใบหน้า จากนั้นเริ่มต้นด้วยการใช้นิ้วมือนวดคางขึ้นไปตามโครงหน้าให้เป็นรูปตัววี นวดจนใบหน้าเริ่มรู้สึกอุ่นๆ ก็ตามด้วยการนวดครีมบริเวณจุดอื่นๆ วิธีนี้จะช่วยยกกระชับคางให้ได้รูป ซึ่งผลในระยะยาวจะทำให้เรามีใบหน้าวีเชฟ และใบหน้าที่เด็กกว่าอายุจริง
- ควบคุมอาหาร ส่วนใหญ่เหนียงเกิดจากการกินของหวาน ของมัน ของทอด แป้งมากกว่าพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวัน ทำให้เกิดไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย บางคนจึงเกิดไขมันส่วนเกินสะสมใต้คางจนเกิดเหนียงนั่นเอง แต่เราสามารถกำจัดเหนียงได้ที่ต้นเหตุ เพื่อลดไขมันบริเวณใต้คาง ด้วยการหันมากินอาหารประเภทนิ่งหรือต้มมากกว่ากินของทอด หันมาควบคุมอาหารในแต่ละมื้อ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากแป้ง หันมาออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันทั่วร่างกาย และลดไขมันเฉพาะส่วน จะทำให้เราเฟิร์มขึ้นเยอะเลยค่ะ
- อุปกรณ์กระชับคาง ส่วนใหญ่มักเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในประเทศเกาหลี และนำเข้ามาจำหน่ายในไทย โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะได้ผลลัพธ์ที่ดี จะต้องใช้อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยประมาณ 3-6 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง โดยอุปกรณ์กระชับคาง ช่วยลดเหนียงยอดฮิตในปัจจุบัน คือ เข็มขัดรัดหน้าเรียว ลูกกลิ้งนวดกระชับใบหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ปลอดภัย แต่อาจเห็นผลช้า ทำให้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดเหนียงอย่างเร่งด่วน
- อย่าก้มหน้าเล่นมือถือมากเกินไป การก้มหน้าเล่นมือส่งผลให้ช่วงขากรรไกรหรือคางช่วงล่างหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่าย ทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงการเล่นมือถือด้วยการก้มหน้า แล้วเปลี่ยนท่าเล่นมือถือมานั่งตัวตรง พยายามให้โทรศัพท์อยู่ในระดับสายตา มองหน้าจอมือถือออกไปตรงๆ วิธีนี้นอกจากจะช่วยลดเหนียงใต้คางได้แล้ว ยังช่วยลดการปวดไหล่และต้นคอได้อีกด้วย
- ดื่มน้ำเพียงพอช่วยลดเหนียง เราคงได้ยินกันบ่อยๆ ว่าควรดื่มน้ำวันละ 1.5 ลิตรต่อวัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายอย่างมหาศาล โดยประโยชน์อย่างหนึ่งที่มีต่อเหนียงของเราคือ การดื่มน้ำที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวันนั้น จะช่วยให้ระบบเผาพลาญทำงานได้ดีขึ้น เมื่อระบบเผาพลาญดี ไขมันก็สลายได้ง่าย ใครอยากสลายไขมันใต้คาง คงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งสามารถใช้สูตรคำนวณการดื่มน้ำ คือ น้ำหนักตัว (ก.ก.)/2 x 2.2 x30 = … C.C. เช่น หญิงน้ำหนัก 45 กิโลกรัม (45)/2 x 2.2 x30 = 1,485 C.C. (น้ำ 1 ลิตร = 1,500 C.C.)
- การฉีดสลายไขมันด้วยเมโสแฟต (Mesotherapy) ซึ่งหลายคนจะเรียกติดปากว่า “ฉีดแฟต” “ฉีดลดแฟต” หรือ “ฉีด Meso Fat (เมโสแฟต)” นั่นเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณต่างๆ ของร่างหาย โดยการฉีดสารประกอบหรือตัวยาบางชนิดที่สามารถสลายไขมันเข้าสู่ชั้นไขมันเฉพาะจุดที่ต้องการ เพื่อลดกระชับสัดส่วนให้ได้รูปตามต้องการแบบจุดต่อจุด ซึ่งเป็นวิธีการลดไขมันและลดเซลลูไลท์ที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ใช้วิธีการผ่าตัด เรียกได้ว่า กังวลไขมันส่วนเกินตรงไหน ก็ฉีดตรงนั้นให้ลดลง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแก้ม เหนียงใต้คาง หรือแม้แต่ ต้นแขน ต้นขา อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีความปลอดภัย เพราะส่วนผสมหลักเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สลายออกจากร่างกายได้ดี สาวๆ จึงไม่ต้องกังวลว่าไขมันที่โดนสลายจะไหลไปสู่บริเวณข้างเคียง หรือทำให้ผิวหนังแข็งเป็นก้อน เนื่องจากไขมันก้อนใหญ่จะแตกตัวจนสลายออกเป็นไขมันเหลว แล้วถูกขับออกทางปัสสาวะหรือเหงื่อนั่นเอง ยิ่งหากใครชอบออกกำลังกายหรือเป็นสายดื่มน้ำมาก ๆ ไขมันจะยิ่งสลายออกไปปริมาณมากและรวดเร็ว โดยเฉลี่ยจะเห็นผลลัพธ์ภายใน 3-7 วัน
แต่สาวๆ หลายคนที่ผ่านการฉีดลดแฟตมักแอบกังวล เนื่องจากเมโสแฟตส่วนใหญ่ ฉีดแล้วจะบวมนาน บางคนฉีดแล้วบวม 2-3 วัน เอาแบบไม่อยากออกจากบ้านกันไปเลย
วันนี้เรามีชี้ทางสว่าง แอบกระซิบว่า ฉีดแฟตแบบไม่บวมมันมีอยู่จริง!
ซึ่งหากใครไม่มีเวลามานั่งพักหน้า แนะนำให้เลือก ฉีดแฟตแบบใหม่ ที่สลายไขมันแบบไม่บวมไปเลย ราคาเองไม่ได้ต่างมากจากแฟตแบบเดิม แต่แฟตจำพวก Lipo V สามารถลดไขมันได้เยอะ และไม่ทิ้งความบวมไว้ให้รำคาญใจอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจฉีดสลายไขมันแบบนี้ แนะนำศึกษาข้อมูลหรือสอบถามแพทย์ให้มั่นว่า ฉีดด้วยสารตัวไหน ดูรูปรีวิวจนมั่นใจ เลือกทำในสถานพยาบาลที่ปลอดภัย ฉีดโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต จะสวยทั้งทีเลือกให้ดีและมีความปลอดภัยกับตัวเราค่ะ
รวมรีวิวสลายไขมัน
*ผลลัพท์การรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล