รับโปรโมชั่นพิเศษ เฉพาะคุณเท่านั้น
ใครที่นอนดึกเพราะติดเกม ติดซีรีย์จนไม่ยอมหลับยอมนอนกันบ้าง ยกมือสารภาพมาซะดีๆ จนส่งผลให้เกิดปัญหาใต้ตาคล้ำและกลายเป็นปัญหาที่กวนใจหนุ่มๆสาวๆหลายคนกันอยู่ใช่มั้ยคะ ยิ่งวัยเรียน วัยทำงานแบบเราๆจะให้เข้านอนตั้งแต่3-4ทุ่มก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะการมีรอยคล้ำใต้ตาทำให้หน้าตาดูโทรม เหนื่อย ไม่สดใส และดูมีอายุมากขึ้นกว่าความเป็นจริง อีกทั้งทำให้การแต่งหน้าในแต่ละวันก็ยิ่งยากขึ้นด้วย มาดูกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยคืนความใสให้กับดวงตากันบ้าง
เริ่มต้นที่อย่างแรกด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้านอย่างการนำถุงชาร้อนที่ชงเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้จนอุ่น จากนั้นก็นำมาประคบใต้ดวงตาประมาณ 10-15 นาที สารแทนนินที่อยู่ในใบชาก็จะช่วยทำให้ใต้ตาคล้ำหมองดูสดใสขึ้นได้ง่ายๆ อีกทั้งยังช่วยลดอาการตาบวมได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากใช้วิธีนี้ก็ควรจะทำเป็นประจำเพื่อให้เห็นผล
สำหรับใครที่มาสายสกินแคร์ ในปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์ก็ได้มีการพัฒนาสูตรอายครีมลดรอยคล้ำใต้ดวงตาออกมาเป็นอย่างดี โดยการใช้อายครีมก็ง่ายแสนง่าย เพียงใช้อายุครีมปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว ค่อย ๆ ปาดจากหัวตาไปหางตาเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ใต้ตาคล้ำของเพื่อนๆ กระจ่างใสขึ้น โดยเนื้ออายครีมก็มีหลายแบบด้วยกันทั้งเนื้อครีมและเนื้อเจล แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบการทาบำรุงเป็นกิจวัตร
โดยให้เลือกใช้คอนซีลเลอร์เนื้อบางเกลี่ยง่ายและมีโทนสีใกล้เคียงกับสีผิวของเรามากที่สุด อย่างสีเหลืองหรือสีเหลืองปนส้มอ่อน ๆ เพื่อที่จะได้แก้สีเทาปนน้ำเงินปนม่วงของเงาใต้ตาได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้กันหลายยี่ห้อเลยค่ะ
ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์แผ่นเจลสำเร็จรูปแปะใต้ดวงตาวางขายและสามารถหาซื้อได้ทั่วไปอยู่เ็นจำนวนมาก วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นำแผ่นเจลไปแช่เย็นแล้วนำมาปิดใต้ดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ความเย็นของแผ่นเจลจะช่วยคลายกล้ามเนื้อดวงตาและถนอมหลอดเลือดรอบตา
วิตามินผิวออร่าบูสสูตรเฉพาะจากทาง LBC Clinic เป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวได้ทั้งตัว ผสานวิตามินบีรวมช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายรู้สึกเฟรชตลอดเวลา ผิวไม่โทรม แม้นอนดึก
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกทางลัดหนึ่งที่จะใช้ให้ใต้ตาคล้ำดีขึ้นทันทีหลังทำ อีกทั้งใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น โดยจะช่วยให้บริเวณใต้ตามีความเต่งตึง อิ่มน้ำ ลดความดำคล้ำช่วยให้ใบหน้าดูสดใสยิ่งขึ้น การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปใต้ผิวหนัง ไม่เป็นอันตรายเนื่องจากเป็นสารเติมเต็มตามธรรมชาติ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็คือตัวสารสามารถย่อยสลายเองได้ ระยะเวลาในการทำไม่นาน สามารถกู้คืนบริเวณใต้ตาให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยในเรื่องใต้ตาคล้ำแล้ว ยังเด่นในการช่วยกลบริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เกิดขึ้นได้อย่างดี มีความเป็นธรรมชาติสูง ดูเนียนไปกับส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ทำการฉีดสารใด ๆ เมื่อทำการเติมฟิลเตอร์ใต้ตาเสร็จแล้วเพียงดูแลตัวเองดี ๆ ไม่ต้องพักฟื้นก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ เหมาะกับผู้ที่มีร่องใต้ตาลึก แม้ว่าสารที่ฉีดจะสลายได้เองแต่ก็สามารถอยู่ได้นานถึง 8-12 เดือนเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับปริมาณและเทคนิคที่แพทย์ใช้ เรียกว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้เวลาในการทำน้อย คุ้มค่าและเหมาะสำหรับชีวิตที่ต้องการความเร่งรีบเป็นอย่างมาก
อีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยชีวิตของคนใต้ตาคล้ำได้ก็คือการฉีดไซโตแคร์ ชื่อแปลก ๆ แต่บอกเลยว่าได้รับความนิยมไม่แพ้ใคร เพราะมีส่วนช่วยทำให้ใต้ตาคล้ำน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ไซโตแคร์นั้นเป็นสารอีกตัวหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผิวหนัง แม้ว่าจะมีสาร Hyaluronic Acid (HA) เหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่ไซโตแคร์นั้นยังมีสารอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีกเช่นกรดอะมิโนเปปไทด์ วิตามิน กรดนิวคลิอิกและสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมทั้งอาหารผิวอีกมากมายที่ถูกสกัดมาจากธรรมชาติเน้น ๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไซโตแคร์แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์
ข้อดีของการฉีดไซโตแคร์ใต้ตาที่นอกจากจะช่วยทำให้ใต้ตาคล้ำลดลงแล้ว ก็ยังทำให้ผิวกระจ่างใสดูมีออร่ากว่าที่เคย เนื่องจากสารดังกล่าวจะช่วยสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวเร่งในการขจัดเซลล์ผิวที่เสียจากการเกิดสิวบนใบหน้า ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ไซโตแคร์จะช่วยเข้าไปรักษาสมดุลภายในผิวหนังเห็นผลภายใน 5-7 วัน อย่างไรก็ตามการฉีดไซโตแคร์บริเวณร่องแก้มและใต้ตาจะอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น จากนั้นจะต้องทำการฉีดใหม่อีกครั้ง
นอกจากปัญหาใต้ตาคล้ำจะเกิดจากการพักผ่อนน้อยแล้ว มันยังเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น กรรมพันธ์ อายุ ภูมิแพ้ ดังนั้นทางที่ดีเราควรหันมาดูแลสุขภาพตัวเองควบคู่ไปด้วย ทั้งการรับประมานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อาการใต้ตาคล้ำก็จะดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอน